Search This Blog
Friday, December 22, 2017
Sunday, December 17, 2017
Sunday, December 10, 2017
Wednesday, December 6, 2017
Sunday, December 3, 2017
เดินทางไกลครั้งแรก Long distance first time
1 มิถุนายน 2551
ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออกจากกรุงเทพฯ 6.50 น. พ่อขับรถไปส่ง อาณีกับน้องอ่ำ ไปด้วย ไปถึงสนามบิน ประมาณ 6 โมง จัดแจงเช็คอิน แลกเงิน และที่สำคัญ 2 สาวจัดแจงป้องกันตัวเองด้วยยาแก้เมาเครื่องบิน สักพัก แม่ ฝนกับพี่เอก เอ็กซ์กับน้ำ มาถึง ก่อนเข้าไปข้างในแป้บเดียว
ไม่เคยเดินทางต่างประเทศเลยไม่รู้ว่าจะแบ่งเป็นช่องวีซ่าไทย กับ ต่างชาติ แถวเริ่มยาว ยืนรอสักพักอ้าวนี่มันแถววีซ่าต่างชาติ…อิอิ เดินกันมั่วเลย 2 คน….
June 1st, 2008
We left home at 5 am. my father drove us to the airport. My step-mother and 11 years old brother get together with us. We were at Suwanapoom airport about 6am. check in and exchanged money. Our flight was 6.50am. We will sick on the plane then took the pills for that. My mother, Fon and Ek, my sister and her boyfriend arrived before we walked to the gate a short moment. My mother was crying
น่านฟ้า ญี่ปุ่น ลงนาริตะ
น่านฟ้าอเมริกา ลงชิคาโก
แล้วต่อภายในประเทศสู่ ฟิลาเดลเฟีย จุดหมายปลายทาง…
ในที่สุดก็ถึงซะที ทั้งเมื่อย ทั้งตื่นเต้น ทั้งมันส์ หลับแล้วหลับอีก กินแล้วกินต่อ บนเครื่อง
เมื่อเหยียบพื้นดินสิ่งที่ต้องการที่สุด "สุขาอยู่หนใด!!"
On the plane, it was really long time. We ate and slept.
From Bangkok to Narita, Japan.
Chicago, USA and transfer to Philadephia our destination.
Finally, we arrived. I was really tired and excited and also fun.
First things we were looking for when stood on the USA land,
"Where was the restroom?" ^_^
ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออกจากกรุงเทพฯ 6.50 น. พ่อขับรถไปส่ง อาณีกับน้องอ่ำ ไปด้วย ไปถึงสนามบิน ประมาณ 6 โมง จัดแจงเช็คอิน แลกเงิน และที่สำคัญ 2 สาวจัดแจงป้องกันตัวเองด้วยยาแก้เมาเครื่องบิน สักพัก แม่ ฝนกับพี่เอก เอ็กซ์กับน้ำ มาถึง ก่อนเข้าไปข้างในแป้บเดียว
ไม่เคยเดินทางต่างประเทศเลยไม่รู้ว่าจะแบ่งเป็นช่องวีซ่าไทย กับ ต่างชาติ แถวเริ่มยาว ยืนรอสักพักอ้าวนี่มันแถววีซ่าต่างชาติ…อิอิ เดินกันมั่วเลย 2 คน….
June 1st, 2008
We left home at 5 am. my father drove us to the airport. My step-mother and 11 years old brother get together with us. We were at Suwanapoom airport about 6am. check in and exchanged money. Our flight was 6.50am. We will sick on the plane then took the pills for that. My mother, Fon and Ek, my sister and her boyfriend arrived before we walked to the gate a short moment. My mother was crying
น่านฟ้า ญี่ปุ่น ลงนาริตะ
น่านฟ้าอเมริกา ลงชิคาโก
แล้วต่อภายในประเทศสู่ ฟิลาเดลเฟีย จุดหมายปลายทาง…
ในที่สุดก็ถึงซะที ทั้งเมื่อย ทั้งตื่นเต้น ทั้งมันส์ หลับแล้วหลับอีก กินแล้วกินต่อ บนเครื่อง
เมื่อเหยียบพื้นดินสิ่งที่ต้องการที่สุด "สุขาอยู่หนใด!!"
On the plane, it was really long time. We ate and slept.
From Bangkok to Narita, Japan.
Chicago, USA and transfer to Philadephia our destination.
Finally, we arrived. I was really tired and excited and also fun.
First things we were looking for when stood on the USA land,
"Where was the restroom?" ^_^
Wednesday, November 8, 2017
Saturday, October 28, 2017
Friday, October 27, 2017
เจ้านกโชคร้าย Poor birdie
25 ตุลาคม 2560
เจ้านกที่น่าสงสาร
นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ป้าโอ้ทฝังนกน้อยหลังบ้าน เมื่อปี 2553 นกน้อยตัวหนึ่งบินมาชนกระจกอย่างแรง ตกลงไป หายใจสองครั้ง ก่อนขาดใจ ครั้งนี้ เจ้านกเคราะห์ร้าย คงตกลงไปในตะกร้า ข้างบ้านน้อยบนต้นไม้นี้ แล้วติด ออกไม่ได้ เจ้าคงทุรนทุรายมากทีเดียว จนลมหายใจสุดท้าย ถ้าป้าโอ้ทเห็นจะรีบช่วยเจ้าให้รอดจากความเจ็บปวด แต่สายไปเสียแล้ว สิ่งที่ป้าโอ้ททำได้คือ นำร่างไร้วิญญาณฝังที่พื้นดินเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ เจ้ายังมีประโยชน์ต่อผู้อื่นนะ เจ้านกน้อย ป้าโอ้ทดีงร่างเจ้านก แต่ไม่ออกง่าย ติดช่องตะกร้า ไม่อยากออกแรงดึงเพราะจะทำให้ขาขาดจากตัว ป้าโอ้ทบอกให้มิสเตอร์ตัดลวดตะกร้าออก จะได้ไม่มีนกน้อยเคราะห์ร้ายมาติดแล้วตายอีก มิสเตอร์จะทำให้วันเสาร์นี้ ป้าโอ้ทเอาถุงพลาสติกครอบร่างไร้วิญญาณไว้ รอวันเสาร์
Oct 25, 2017
I just read an article about poor birdie who died because of the beauty of a rose. The bird flew into the rose and die because of the sharp thorn strap into its heart. Today, I saw this poor body bird at the feeder. It stuck in the wire basket until the last breath. This is my second time to see a cute little one die at home. It was in 2010, a little bird flew through the glass door.It hit hard and then died. I told my husband to cut the wire basket out of the feeder so no more bird dies again.
แต่...
เช้านี้ร่างของเจ้านกเคราะห้ร้ายได้หายไปแล้ว เหลือเพียงซากขนนกติดอยู่ บนพื้นมีขนนกสีดำร่วง ป้าโอ้ทสันนิษฐานว่าเป็นกาตัวใหญ่มาดึงออกไป
I was trying to pull the body out of basket but it stuck. I did not want the body apart then wait for Saturday. I took a plastic bag cover the bird body last night.
Oh! The bird body is gone just feather left and also the black feather on the under the feeder. I guess it might be a crow who took the body.
Sunday, October 22, 2017
Monday, October 16, 2017
Subscribe to:
Posts (Atom)
เมื่อเราไม่ท้อ ไม่ถอย ตั้งใจ และลงมือ อะไรก็สำเร็จได้สักวัน
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.
เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ
Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!
Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.
Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.
เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ
Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!
Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.
Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog