Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป อยู่ยังไงก็ได้ให้มีความสุข

Search This Blog

Sunday, June 26, 2011

ไปทะเลกันดีกว่า...Enjoyed at the beach "Ocean City , Maryland"

25 พ.ค 2554...การเดินทางครั้งนี้คุยกับสาวๆๆ (บิ๋ม  ก้อย และ พี่ดา) ไว้ล่วงหน้า หนึ่งสัปดาห์ แต่คุยกันบิ๋มร่วมเดือน ว่าอยากไป หาวันไปกันสักวันดีกว่า และเมื่อมีสมาชิกต้องการร่วมทางด้วยเพิ่มอีกสองสาว (สามีไม่นับ) เราต้องทำการโหวต วันเดินทาง สรุปได้วันเสาร์ที่ 25 นี่ล่ะ แผนที่วางไว้คือ โอ้ทต้องไปรับพี่ดา ตอนเช้า กลับมาเจอกันที่บ้าน 9.30 ออกเดินทาง จากบ้านโอ้ทไปบ้านพี่ดา ประมาณ 1 ชั่วโมง ไป-กลับ 2 ชั่วโมง เนื่องจากคุณสามีพี่ดาทำงานวันเสาร์ ดังนั้นต้องรบกวน ดร.บิ๋มคนสวยเป็นโชเฟอร์พาพวกเราสู่ทะเล เพราะโอ้ทขับม่ายหวายยยยยยยยย ง่วงๆๆๆ แหงๆๆ  งานนี้ มิสเตอร์ ไปด้วย ถามไถ่ บอกไว้ให้รู้ว่าตั้งใจไปปักหลักเล่นน้ำทะเล กลัวมิสเตอร์ไปแล้วจะเบื่อ แต่เข้าใจกันในทางเดียวกันแบบนี้แล้วไม่มีปัญหา

25th June 2011...We went to Ocean City, Maryland. It was my first time to play in the water at the beach. It was fun. The wave were big and water were cool that was good for a hot day. We had lunch at Phillips crab house before walked to the beach. Good food.

We had a great time.


9.30 ถึงเวลานัดทุกคนพร้อม ออกเดินทาง ปรากฎว่า โอ้ทไม่รู้จักทาง ไม่ได้ดูแผนที่ แต่คิดว่าทะเลอยู่แมรี่แลนด์ต้องไปทางบัลติมอร์ ดร.คนสวยก็เชื่อมั่น ไปตามบอก ...ฮ่าฮ่า วนกันอยู่1ชั่วโมง ถึงรู้ว่า ต้องไปอีกทาง สรุปการเดินทางของเราใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆๆ แทนที่จะเป็น สองชั่วโมงกว่าๆๆ  นัดก้อย กับ เจสันที่ร้านอาหารตอนเที่ยง ต้องโทรแจ้งเหตุที่เกิด และโอ้ทรับผิดเพียงผู้เดียว แต่น้องๆๆ น่ารัก ไม่มีการต่อว่ากัน

ระหว่างทางมีเสบียง พี่ดาทำหมี่ผัดซีอิ้วมา หม่ำกันซะก่อนคนละกล้องโอ้ทกับพี่ดา เพราะ ดร.บิ๋มหม่ำมาแล้ว มิสเตอร์รอไปหม่ำร้านอาหาร โอ้ททำข้าวเหนียว หมูย่างหิน(เพราะย่าง/อบไฟบน เสร็จแล้ว ปล่อยไว้ในเตาระหว่างไปรับพี่ดา สองชั่วโมง ออกมาแข็งเป๊กเลย แต่พอกินได้ตอนเล่นน้ำเหนื่อยๆๆ

เมื่อถึงร้านอาหาร ฟิลิปส์ ดร.บิ๋มของเราเป็นคนแนะนำ หาข้อมูลร้านนี้ (มันฝรั่งทอดสูตรร้อยปี) ทุกคนจัดการใส่เสบียงลงกระเพาะกันเต็มที่ จากนั้นต้องไปหาที่จอดรถ โอ้ทกับพี่ดาเดินล่วงหน้ากันไปที่หาดก่อน จัดการกางเต้นท์ชายหาด (เต้นท์ครี่งเสี้ยว) ปูเสื่อ เรียบร้อย ทุกคนตามมาถึง พักผ่อนตามอัธยาศัย งานนี้โอ้ทถอดเสื้อผ้า ลงน้ำก่อนใคร มิสเตอร์ออกเดินริมทะเลตามที่บอกตั้งแต่ก่อนมา






คลื่นแรงมาก น้ำเย็นชื่นใจเหมาะกับอากาศร้อน สนุกจริงๆๆ ดร.บิ๋มเอาบอลชายหาดมาด้วย โอ้ทกอดบอลไว้ตอนเล่นคลื่น ช่วยให้ตัวลอยตุ๊บป่องๆๆ ไม่ล้มตอนคลื่นซัด อยู่ใต้น้ำ สนุกๆๆ ระหว่างนั้นถ่ายรูปกันไปสนุกสนาน งานนี้โอ้ทจับกล้องน้อยมากเพราะมัวแต่สนุกกับคลื่น





สักพักมิสเตอร์เดินกลับมาบอกว่า อยากเล่นน้ำทะเล คลื่นน่าเล่นแต่หาซื้อกางเกงไม่ได้ งั้นไปหาอีกรอบดูซิ ตรงร้านใกล้ๆๆกับที่เรากางเต้นท์ แล้วก็ได้เสื้อ กางเกงกลับมา ได้ลงเล่นคลื่นสมใจ...เห็นมิสเตอร์มีความสุขทุกคนก็ดีใจ เพราะกลัวเขาเบื่อ เล่นกันจนลืมเวลา ฟ้ายังสว่าง แต่ 6 โมงเย็นแล้ว ว้า! ต้องกลับกันแล้วซินะ  ยังไม่ได้เดินบอร์ดวอล์คเลย เอาไว้เราไปกันใหม่ รอบหน้าไม่เล่นน้ำแต่เดินๆๆๆๆเที่ยว






ทะเลที่นี่ทุกคนต้องเตรียมสัมภาระในการนั่ง นอน พักผ่อนไปเอง ไม่มีเก้าอี้ผ้าใบ ร่ม เหมือนบางแสน หรือหาดบ้านเรา (รัฐใหญ่ๆๆ เช่นฮาวาย ไมอามี่ ฟลอริด้า โอ้ทไม่รู้เหมือนกันไหม เพราะยังไม่เคยไป)  ไม่มีแม่ค้า มาเดินเร่ขายอาหารทะเล  ในส่วนทะเล และ หาดทราย จะแยกต่างหากจากส่วนที่เป็นทางเดินเล่น และร้านขายของที่ระลึก ขายอาหาร












ชายหาดที่นี่ กว้าง และน่าเล่นกว่าที่ ทะเลรีโฮบูท ที่เดลาแวร์ และ แอตแลนติคซิตี้ นิวเจอร์ซี่ (เคยไปมาแค่สองที่ ที่อื่นไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร)

สรุปว่า สนุกมากจ้า




Tuesday, June 14, 2011

ภาพน่ารักว่าที่คุณแม่คุณพ่อมือใหม่ Photos of new parents

เสาร์ที่ 11 มิ.ย 2553...ว่าที่คุณแม่คุณพ่อมือใหม่เดินทางมา 1.30 ชั่วโมง เพื่อสร้างภาพชุดนี้ กำหนดการณ์ของเราเริ่มจากที่บ้านโอ้ท=>ริมทะเล=>ท่าเรือ=>เตียง และจบที่สระว่ายน้ำ แต่ด้วยฝนฟ้าไม่เป็นใจ เทลงมาซู่ใหญ่ ทำให้ว่าที่คุณแม่อดตีโป่งเลย...ขอบคุณว่าที่คุณแม่คุณพ่อมือใหม่ที่อนุญาตให้เอาภาพมาเผยแผ่จ้า และ ขอบคุณ ดร. บิ๋ม ที่ช่วยตลอดจนเสร็จภาระกิจจ้

ปล.รูปที่มืดเป็นการเจตนา ของคุณแม่เนื่องจากไม่ต้องการให้ดูเซ็กซี่เกินไป และภาพขาว-ดำ ดูเป็นศิลปะ





11th June 2011...My friend "Koi" and her husband "Jason" gave me a chance to take them maternity photos. We had a great time together. We planned to finish last photo at the pool but unfortunately the rain came so hard. I am happy because they satified my work. Thank you both and also thanks my friend "Bim" to be my great assistant.

PS: some photos are dark because we did not want to present too much sexy. Black and White is the Art.

ไข่พะโล้หมู... Eggs in chinese five spice with pork

ไก่พะโล้ เมื่อ 23 ก.ย 2553

เตรียม : สับกระดูกหมูเป็นท่อนพอคำ   ผงพะโล้  น้ำตาลปีก (ก้อน)  น้ำปลา ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ไข่ต้ม

ลงมือ : ผัดหมูกับผงพะโล้ ปริมาณตามข้างซอง (เคยใส่เยอะไม่อร่อย) จากนั้น เติมน้ำ ต้มจนหมูสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีก น้ำปลา ซีอิ้วขาว
  • ใส่ไข่ต้ม และต้มต่อ ใช้ไฟอ่อน จนหมูเปื่อย
  • ใส่ผักชี รากผักชีทุบ (ถ้ามี) จะได้หอม
ครั้งนี้เป็นครั้งที่อร่อยที่สุดที่ทำมาเลยล่ะ



Chicken in chinese five spice  on 23rd September 2010

Prepare :  cut pork pork rib into one bite,  chinese five spice powder, brown suger bar, fish sauce, soy sauce , black sauce and boiled eggs

Cook : stir fried pork and  chinese five spice powder until mix well (look on a pack for mesurement)
  • add water and continue boil until pork cook well
  • seasoning with brown sugar bar, fish sauce,soy sauce and taste
  • add boiled eggs and little black sauce
  • continue boil with low heat until pork tender
  • add cilentro and root (if have) to make smell 
ครั้งนี้เป็นครั้งที่อร่อยที่สุดที่ทำมาเลยล่ะ
this was the best I cooked.

แกงเขียวหวานไก่... Chicken green curry

ทำเมื่อ 4 มี.ค 2553

14 พ.ค 2554...มาอร่อยกันอีกแล้วด้วยแกงเขียวหวาน แต่รอบนี้ไม่เผ็ด

เตรียม :  เนื้อไก่หั่น  พริกแกงเขียวหวานสำเร็จ (เพราะไม่มีปัญญาทำเอง) น้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว มะเขือเปราะ กะทิ

ลงมือ :หั่นไก่ชิ้นพอคำ หรือ อยากใส่ชิันใหญ่ก็ตามชอบ โอ้ทจะชอบหั่นให้เหลือเนื้อติดกระดูกด้วย แทะอร่อยดี หมักน้ำปลาไว้ประมาณ 30 นาที

  • ตั้งหม้อ ต้มกะทิใส่พริกแกงไปด้วย จนเดือด ถ้าต้องการเผ็ดให้เติมพริกตำ 
  • ใส่เนื้อไก่ที่หมัก เติมน้ำตาลทราย ต้มจนไก่สุก ชิมรส และปรุงตามชอบ
  • เติมมะเขือเปราะ ต้มต่อจนมะเขือนิ่มได้ตามต้องการ ปิดเตา
  • ใส่ใบโหระพา (ถ้ามี)
ปล. หากไม่ชอบข้นให้เติมน้ำ (เหมือนของโอ้ท เพราะไม่ชอบข้น)





 cooked on 4th March 2010

Prepared : slices chicken , coconut milk, soy sauce, fish sauce , sugar, eggplant cut half  and green curry paste


Cook : mixed slices chicken with fish sauce and leave for 30 minutes
  • boil coconut milk with green curry paste  ( if like spicy add smash chilli)
  • add slices chicken and seasoning with sugar and soy sauce/fish sauce, taste
  • continue cooking until chicken cook well , add eggplant
  • continue cooking until eggplant soft as you like
  • if do not like solid soup add water (like mine)

กินกับเส้นก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่นแทนเส้นขนมจีนเพราะเส้นญี่ปุ่นตุนไว้เยอะ กินให้หมดซะก่อน ค่อยซื้อเส้นหนมจีน
Eat with rice or noodle (every kind is good)
จานนี้ของมิสเตอร์ ไม่กินมะเขือ
My husband's dish. He does not like eggplant.
จานนี้ของโอ้ท
This was mine.

Thursday, June 9, 2011

แจ๋วแจ่มใสได้ลาภปากส่งถึงบ้าน...Enjoy eating after work

9 มิถุนายน 2554
วันนี้ไปทำงาน ตื่นส่งมิสเตอร์ตามปรกติ แล้วกลับไปนอนต่อเพราะเมื่อคืนนอนซะดึกมากกกกกกก (เช้าของวันใหม่) เพราะมัวแต่จัดระเบียบรูปที่ไปถ่ายมาเมื่อวาน  ตั้งโทรศัพท์ปลุก 10.40 น จัดการตัวเองเรียบร้อย หม่ำๆๆ ให้ท้องอิ่มก่อนจะได้มีแรงทำงานคล่อง  มีเวลา 5 นาทีก่อนออกปฎิบัติการ งั้นเหมือนเดิม เอาหน้ากระด้งออกไปบานรับแดดหลังบ้านดีกว่า

9th June 2011...Today after I ready for work still had 5 minutes before left home so I went out on the deck and took photos of my fat face as usual.

ก่อนไปทำงาน เอาหน้ากระด้งบานรับแดด

กลับถึงบ้าน จัดการอุ่นปู กับ บะจ่าง อภินันทนาการจากเพื่อน ดร.สาวชาวไต้หวัน เพื่อน ดร.บิ๋มนั่นเอง สบายใจเลยเพราะมิสเตอร์เมินๆๆๆ จัดการคนเดียวเต็มที่ หมดภายใน 30 นาทีก่อนไปเรียนภาษาอังกฤษตอนค่ำ...พุงกางไปเรียนว่างั้น

After work I warm up crabs and BaZhang  which Jalin (Bim's roommate) gave me. I ate all of them because my husband he did not like to eat . Good for me :-) I ate everything in 30 munites before went to ESL class. So quick!

Wednesday, June 1, 2011

ปวดหัวแทบแตก...I had a headache so badly.

1 มิ.ย 2554... เมื่อวานตอนเย็นหลังเลิกงานกลับถึงบ้าน รู้สึกปวดหัวนิดๆๆ  ทำอาหารให้มิสเตอร์ จัดแจงกินเสร็จ เก็บล้างเรียบร้อย นั่งรอว่าจะปวดมากขึ้นจนไปเรียนไม่ไหวหรือเปล่าจะได้โทรบอกครู แต่ไม่ปวดมากจึงไปเรียนตามปกติ  แต่ระหว่างขับรถกลับบ้านซิ โอ้ยๆๆๆ ปวดหัวแทบระเบิด ตาพร่าอีกด้วย อยากถึงบ้าน แล้วนอนๆๆๆ พยายามตั้งใจขับรถมากๆๆ มองถนนเพ่งมากๆๆ เพราะปวดหัวจนตาพร่าขนาดนั้น  เมื่อถึงบ้าน ตรงรี่อาบน้ำ กินยา นอนทันที...

สันนิษฐานว่า เนื่องจากอากาศร้อนจัด แล้วไปเล่นน้ำเย็น ร่างกายปรับไม่ดี เลยมีผลทำให้ปวดหัวแบบนี้ เคยเป็นแบบนี้นานมาแล้ว เฮ้อ! แย่เลย

1st June 2011...Yesterday afternoon , I came back from work and felt not good because of a headache but it did not really bad. I waited to see if my headache worse so can not go to ESL class but it did not that bad then I went to the class as usual. On the way back home..Geeeeeeeeeee! my headache was really bad. I felt like my head was going to broke and my sign can not see clear enough. I was really concentrated watching the road and control the strealing wheel. I wanted to be home so quick. Finally, I got home and went direct taking shower, took medicine and went sleep.

I thought the cause is the weather so hot and I went swiming in cold water so my body did not adjust well yet then after that it effective with headache like that.

เมื่อเราไม่ท้อ ไม่ถอย ตั้งใจ และลงมือ อะไรก็สำเร็จได้สักวัน
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.

เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ

Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!

Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.

Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog