Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป อยู่ยังไงก็ได้ให้มีความสุข

Search This Blog

Tuesday, June 1, 2010

2 ปีเต็มที่อยู่ไกลบ้าน..2 years away from home

1 มิ.ย 53...วันนี้ครบ 2 ปีเต็มพอดิบพอดีที่มาเหยียบ และอาศัยบนแผ่นดินเกิดของสามี ถ้าจะให้เต็มเปะๆๆ คงต้องรอเวลาค่ำละน่ะ เพราะวันที่มาถึงพระอาทิตย์ตกไปแล้ว มาถึงบ้านนี้ก็ประทับใจสิ่งแรกที่เห็นหน้าหมู่บ้าน ต้นไม้เขียวเหมือนเขาใหญ่

1 June 2010... Today was the 2 years I live in the USA. I remembered on the first day, my husband turned into the development, I was impressed because it looked similar to the National Park in Thailand. I love the trees.





 เมื่อมาถึงบ้านเห็นสิ่งประทับใจที่สองอีก มีกระต่ายน้อยที่สนามหน้าบ้าน และบ้านสีฟ้าหลังน้อยน่ารัก

When we got home, there was a rabbit in the yard. We did not see animals in the village, town and city in Thailand. The blue house felt warm at 1st stepped into it.


2 ปี ได้เรียนรู้อะไร หลายๆๆอย่าง ทุกอย่างต้องทำเองทั้งหมด เป็นแม่บ้านเต็มตัว อาหารไม่ชอบทำ ไม่เคยทำก็ทำได้หลายอย่าง อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างก็กินกันไป เน้นอาหารไทย อาหารฝรั่งทำเป็นไม่กี่อย่าง พิซซ่า สเต๊ก สปาเก็ตตี้




วันไหนอยากทำขนมอบ ก็ทำกินไม่ได้ก็ทิ้ง นึกอยากทำอีกก็ทำใหม่แก้มือ และในที่สุดก็ทำสำเร็จ เคยทำงานพาร์ทไทม์ เช็ดกระจกอยู่ 3 สัปดาห์ ทำความสะอาดห้องใต้ดินให้ป้าคนไทย อยู่ 3 -4 วัน จำไม่ได้ แล้วตัดกิ่งไม้ให้ป้าอีกวัน ทุกวันนี้ยังไม่มีงานทำ เพราะเลือกงานที่ทำตอนกลางวัน เหตุว่าเป็นเวลาที่ดารินไปทำงานนั่นเอง เวลาที่ดารินอยู่บ้าน ก็อยากจะอยู่บ้านด้วย วันหยุดก็อยากมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่อยากต่างคนต่างไป ทำงานจนไม่มีเวลาให้กัน

Two years later, I learned many things and I can do many things which never done in Thailand. I am a real housewife. I do not like cooking but I must cook. I worked as a job I did not think will work in Thailand. Bakery album  Food album









สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการทำสวน ปลูกต้นไม้ ทึ่งตัวเองที่ทำได้ขนาดนี้ ปีนี้ปีที่ 2 ค่อยเห็นเป็นรูปเป็นร่างขี้นมาหน่อย ทำอย่างละนิดละหน่อยเมื่อไรก็เมื่อนั้นล่ะ จะได้มีสวน ดอกไม้ออกดอกให้เห็นตลอดฤดูกาลที่ไม่มีหิมะ

I can do gardening by myself and always do other things to make myself busy such as sewing, knitting, crocheting, pottery, and photography. They are new things for me to learn.

I knew more about photography and every time I see my improvement on the photos I took that makes me really fun and excited.






















แต่ละวันหาอะไรทำให้ยุ่งเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นเย็บผ้า นิตติ้งโ ครเชท์งานปั้น และ ถ่ายรูป ซึ่งตอนนี้บ้ามากๆๆ เพราะมีความรู้ในการถ่ายรูปเพิ่มขึ้น ยิ่งสนุกกับการถ่ายภาพมากขี้น อยากให้ภาพตัวเองออกมาสวยๆๆ และทุกครั้งเมื่อเห็นการพัฒนาของตัวยิ่งตื่นเต้น

การปรับตัวกับอากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลของที่นี่ ยังไง ๆ ฤดูหนาวก็คงยังไม่ชอบอยู่ดี เป็นฤดูที่แย่ที่สุด หนาวสั่น จะแข็งให้ได้ ถ้าไม่จำเป็นอย่าได้หวังจะก้าวเท้าออกจากบ้านเลย มีอยู่วันนึงยืนถ่ายรูปอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน เพื่อนบ้านเดินมาทัก ถามว่าไม่เห็นหลายเดือนนึกว่ากลับไทยไปซะแล้ว...เป็นเวลาที่ดารินกลับมาพอดี ดารินตอบไปว่า ชีอยู่แต่ในบ้านนะซิ ฤดูหนาวๆๆๆ แบบนี้ขอเป็นฤษีเฝ้าถ้ำดีที่สุด

I can adjust myself to the weather better even still do not like cold. Snow is beautiful but if I can choose, I preferred no snow better. I kept myself inside the house whole winter so neighbor thought I went back to Thailand...LOL


ไปไหนมาไหนสะดวกมากขี้น แต่ก็ยังไม่รู้จักถนนหนทางดีมากนัก แล้วก็ไม่คิดอยากจะไปไหนด้วย เพราะแต่ละที่ไม่ได้น่าเดิน น่าเที่ยวเหมือนที่บ้านเอาซะเลย ไปก็ต้องตั้งใจไปซื้อ สรุปแล้วอยู่บ้านดีที่สุด เพื่อนคนไทยพอมีบ้าง แต่ทุกคนทำงาน นานๆๆ จะนัดปาร์ตี้กันสัก่ครั้ง มีเพืื่อนคนไทยที่มาเรียนต่อ ไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ ว่างเมื่อไรก็จะพากันไปเที่ยวตามประสาคนชอบเปิดหูเปิดตา

I knew more direction around my place and have more confidence to go but I do not feel like to go out much same as in Thailand because I felt does not fun as same.



เรื่องภาษาก็พอสื่อสารได้ดีขี้น คนเข้าใจมากขี้น ฟังเข้าใจมากขี้น แต่ก็ยังไม่เลิกที่จะเรียน ทุกวันนี้ก็ยังเรียนอยู่ตอนเย็น สัปดาห์ละ 2 วัน และยังหากลุ่มที่สนใจเข้าร่วมเผื่อฝึกการพูด การฟังจากชีวิตจริงๆๆ ที่ไม่ใช่ในห้องเรียนไปในตัว

My English is better. People understand me and I understand them but still need to learn and I am learning 2 days a week.



ความเป็นอยู่ของตัวเองเรียบง่าย ไม่หวือหวา อาจเป็นเพราะดารินเป็นคนเรียบง่าย แต่ดีที่ชอบความสะดวกสบาย ที่บ้านจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนๆ กับที่ทั่วๆ ไปเขามีกัน จะว่าไปแล้วก็มีความสุขตามอัตภาพ ไม่แข่งกับใคร ไม่อยากได้อะไรเกินตัว ไม่คิดอยากจะมี อะไรที่มีอยู่แล้ว ดีอยู่ก็ไม่คิดดิ้นรนต้องเปลี่ยนให้ดีขี้น หรือแข่งขันกับสังคม ความที่ไม่เข้าใจกัน ก็เข้าใจกัน ยอมรับกันได้มากขึ้น อะไรที่เคยคิดๆๆๆ ว่าทำไม ไม่อย่างนี้น่ะ ไม่อย่างนั้นน่ะ ก็เลิกคิด จะคิดไปทำไม อยู่ไปแต่ละวัน ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด ให้มีความสุขตามอัตภาพดีกว่า ชีวิตเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้

My life is simple and easy. I do not compare and competition with anyone. I satified in what I am  and what I have.

ปีนี้เรามีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 ตัว มังกี้ จากปีที่แล้ว เฮอร์เบิร์ท และลุงเฟรด อยู่กันไป 2 คน กับ 3 ตัว

This year we have a new member " Monkey " . He is a mixed breed cat but naughty as a Monkey, that was the name from.










ทางบ้านที่ไทยก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ทุกคนสบายดี โทรฯคุยกันบ้าง พ่อโทรมาบ้าง โทรหาแม่บ้าง โทรคุยกับน้องบ้าง น้องโทรมาบ้าง อีเมล์หากันบ้าง ยุคสมัยเทคโนโลยีนี่ช่วยย่นระยะทางได้เยอะทีเดียว

My family in Thailand are good so nothing to worry about. I called them sometimes and contact by email. Technology short the world.



หนทางข้างหน้ายังอีก===========================================>ยาวไกล

It is still a long way to go.



No comments:

เมื่อเราไม่ท้อ ไม่ถอย ตั้งใจ และลงมือ อะไรก็สำเร็จได้สักวัน
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.

เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ

Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!

Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.

Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog