Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป อยู่ยังไงก็ได้ให้มีความสุข

Search This Blog

Tuesday, January 3, 2012

ถึงบ้านเนินเขาแล้ว

26 ธันวาคม 2554

เมื่อมาถึงบ้านบนเนินเขาแล้ว มิสเตอร์เอารถจี๊บออก พาโอ้ทไปถ่ายรูป ครั้งนี้โอ้ทเลือกไปบนเนินที่เห็นแม่น้ำด้วย ไปจอดถ่ายรูปได้สอง สามภาพ มิสเตอร์เดินมาบอกว่า เราต้องเดินกลับบ้านไปเอารถมาจั๊มพ์แบตฯ เพราะจี๊บดับไปแล้ว
คลิกดูอัลบัม

Dec 26 ,2011... We took a jeep out to the view point which can see the river because I wanted to take photos there.  Mister told me while I was taking photos that we needed to walk back to the house because the jeep would not start so we needed to get a truck to jump battery.
click to see album












จากจุดที่จอดรถ ถึงบ้านมิสเตอร์บอกว่าประมาณ ครึ่งไมล์ โอ้ทเดินไป ถ่ายรูปไปสนุกนะ แต่ลมแรง ยืนต้านแทบไม่ไหว อากาศเย็น เดินจ้ำพรวดร้อนเหมือนกันล่ะ แต่ถ้ารถไม่เสียก็คงไม่ได้ภาพสวยๆๆ แบบนี้

We walked about half mile from the jeep to the house. I was taking photos along the way. It was cold with the wind blowing all the time but I could feel hot. I walked and run and also kept taking photos until we got back to the house." If the jeep did not stop I would not get nice photos like these" I thought.






จุดหมายเบื้องหน้า
The house was over there.


หนาวๆๆ ร้อนๆๆ ยังไงกันเนี่ย
cold cold, hot hot


ขอสักภาพ
I asked Mister took this photo for me because I like to have photos of myself with a day star.


เยๆๆ ถึงแล้ว
We were here.








ตอนนี้นั่งในรถปิกอัพ กลับไปเอารถจี๊บ
We were in a pick up went back to the jeep.


มิสเตอร์จัดการจั๊มพ์แบต
Mister was jumping battery from a pick up  to the jeep.












เมื่อรถจี๊บสตาร์ทได้แล้ว โอ้ทขับปิกอัพกลับ มิสเตอร์ถามว่าขับได้ไหมเกียร์ธรรมดา ขับได้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อขึ้นไปนั่ง โอโห! ปิกอัพใหญ่กว่าที่บ้านที่เคยขับที่ไทยอีก แถมเกียร์ยาว หาเกียร์ไม่เจอสักที ใส่เกียร์หนึ่ง จะเปลี่ยนเกียร์สอง เข้าเกียร์ว่างตลอดเลย กว่าจะขับถึงบ้าน ก็พักนึงล่ะ พอเข้าเกียร์สองได้ทีนี่ไม่เปลี่ยนเลย ขับช้าๆๆ จนถึงโรงรถ เป็นอันหมดหน้าที่ นึกถึงพี่แพร (เพื่อนที่นอร์ธแคโรไลน่า บอกว่ารถสามีคันใหญ่ขับไม่ได้ คงคันเท่ากันน่ะละเน่อะ)

When the jeep start I drove a pick up back .Mister asked if I could drive manual gear. Yes,but  when I got in the pick up it much bigger than a pick up I drove in Thailand. I had problem to change gear from gear 1 to gear 2 because the gear holder was long. After I took sometime, I could drive the pick up back to the garage at the house.

หลังจากเอารถจี๊บกลับไปจอดแล้ว ออกไปถ่ายรูปต่อ
We took the pick up to the view again.







บ้านที่อยู่ด้านล่างนั่นแหละ เป็นบ้านตั้งแต่สมัยปู่-ย่ามิสเตอร์ ยังมีชิวิตอยู่ แต่ปัจจุบันปล่อยร้างเพราะ น้ำท่วมทุกปี ที่หิมะมาก





ลมแรงมาก ดูเสื้อซิ
Look at my coat, how strong the wind was.


ไม่ไหวแล้ว ลมแรง หนาวๆๆ กลับดีกว่า
We stayed for awhile ,then I told Mister to go back because I could not stay longer . The wind so strong that I could not stand stable.


ก่อนขึ้นรถกลับ ขอสักภาพ
One more photo before got in the pick up


กลับแล้ว ลมแรง ยืนไม่ไหว หนาวด้วย
We were going back to the house.


ราวตากผ้า ไหวตามลม


แมวป่าที่มาอาศัย แม่มิสเตอร์ให้อาหาร เลี้ยงดู จริงๆมีเยอะกว่านี้
There were many wild cats in the barn. Mister's mother feed them well so they live there. Infact, there are more than in photos.






ตอนนี้โอ้ทอยู่ในบ้านแล้ว ไม่ไหว หนาวๆๆๆ ถ่ายภาพแม่กับลูกทางหน้าต่าง
I was in the house and took these photos from the window.






ต้นคริสมาสต์กลับหัว ถ่ายมาจากบ้านเพื่อนแม่มิสเตอร์
Up side down christmas tree from Mister's mom's friend's house


วันรุ่งขึ้น 27 ธค 2554...เดินทางกลับเดลาแวร์จ้า
Dec 27, 2011...We came back to Delaware




2 comments:

DaDaLove said...

สนุกจัง และได้ภาพสวยทั้งนั้นเลย ตื่นเต้นตามเลยละ

โอ้ท@Oath said...

ถ้าไม่มีลมจะสนุกกว่านี้ค่ะ ไม่มีหิมะ แต่ดันมีลมวันที่ไป

เมื่อเราไม่ท้อ ไม่ถอย ตั้งใจ และลงมือ อะไรก็สำเร็จได้สักวัน
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.

เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ

Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!

Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.

Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog