Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป อยู่ยังไงก็ได้ให้มีความสุข

Search This Blog

Friday, December 26, 2014

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา Thai Hoy Ka noodle

23 ธันวาคม 2557

วันนี้แผนของเราคือไปชุมชนไทยในแอลเอ แต่ก่อนอื่นตามโบราณว่าไว้ "กองทัพเดินด้วยท้อง" ตามมติเราเลือกไปร้านอาหารไทยก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ไปถึงร้านประมาณ 9.30น ก่อนร้านเปิดครึ่งชั่วโมง ปัญหาคือไม่มีที่จอดเพราะวันนี้เป็นวันห้ามจอดริมทาง เราวนกันอยู่สามรอบมีลานจอดของบริษัทฯละแวกนั้นซึ่งถ้าเข้าไปจอดไม่มีสติ๊กเกอร์อนุญาตได้โดนลากไปแน่ๆ มิสเตอร์เดินลงไปลานหลังร้านมีป้ายจอดเฉพาะร้านด้านข้าง แต่ป้าโอ้ทคิดว่าจอดได้นะ มิสเตอร์ไม่อยากมีปัญหาจอดผิดที่ไม่จอดดีกว่า สักพักวนกลับมามีป้ายจอดร้านก๋วยเตี๋ยวหลังร้านพอดี จอดตรงนี้ล่ะแล้วเพื่อน ดร. ของเราลงไปเดินดูด้านหน้าว่ามีลานจอดสาธารณะไหม กลับมาไม่มีจ้า แต่ไม่ละความพยายาม แต่ในขณะนั้นเราตกลงใจว่าจะเปลียนร้านแล้ว ก่อนจะเคลื่อนย้ายทัพ ดร.เดินดุ่มเคาะประตูหลังร้านแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ข้างกัน คาดว่าน่าจะร้านเดียวกัน ดร. ไม่รีรอ ก้าวฉับเข้าประตูนั้นทันใด ร้านเดียวกันจริงๆ พนักงานออกมาดูที่จอดรถไม่มีปัญหา และเปิดประตูให้เข้าไปนั่งรอ เราเข้าใจว่าจะเปิดประตูหน้าพากันเดินไปด้านหน้า แต่ทางร้านเปิดประตูหลังต่างหาก เราเดินอ้อมกลับมาด้านหลัง เข้าไปนั่งพร้อมสั่งพร้อมหม่ำ ในขณะเดียวกันถึงเวลาร้านเปิดพอดี ด้วยความหิว และ มาไกล ประกอบกับแถวบ้านเราไม่มีอาหารไทยกินง่าย ป้าโอ้ทเองทำไม่เก่งด้วย ดร.จัดการสั่งเต็มที่ แต่ยั้งไว้บ้างแล้วนะ...

Dec 23, 2014

We started our day with Thai food at " Thai Hoy Ka noodle". We were there 30 minutes before the restaurant open and could not find parking. I walked to the restaurant front door , if someone in side but nobody. We parked at a private parking near by and checked for the permit sign if anywhere for the restaurant. Finally, we decided to park in the back of the restaurant. A friend of us jump out of the car and knocked the back door of the restaurant but no respond from inside. She walked to the next door which wide open which we guessed it was the other door of the Thai restaurant. She succeeded because we could get in now.









ไปแคลิฟอร์เนีย start California trip

22 ธันวาคม 2557

วันนี้เราสองคนเดินทางไปเที่ยวแคลิฟอเนียเพื่อร่วมทั่วร์กับบิ๋ม
โดยปกติเราสองคนไปร่วมคริสมาสต์ที่บ้านแม่ย่า นอร์ทดาโกต้าแต่ปีนี้เราไม่ได้ไป ป้าโอ้ทคุยกับบิ๋มบ่อย บิ๋มเล่าว่าวางแผนซื้อทัวร์ไปแกรนด์แคนยอน ป้าโอ้ทเล่าให้มิสเตอร์์ฟัง มิสเตอร์บอกงั้นเราไปเจอบิ๋มที่นั่นดีไหมล่ะ นี่เองคือที่มาของทริปนี้

เราเดินทางกันเที่ยวบินเช้าจากฟิลาเดียเฟียสองชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ ถึงมินิโซต้า ต่อไปลอสแองเจอลีส(แอลเอ)อีกประมาณสามชั่วโมงครึึ่ง เวลาต่างจากเดลาแวร์สามชั่วโมง(ช้ากว่านะ) เมื่อไปถึงรับกระเป๋าและนั่งรถชัตเตอร์บัสไปจุดรถเช่า รอบิ๋มกับเพื่อนมาถึงหลังเราหนึ่งชั่วโมง จากนั้นตรงดิ่งไปโรงแรม และออกไปหาของอร่อยเติมพุง และเดินย่อยเล็กน้อยก่อนกลับเข้าที่พัก

พักผ่อนเตรียมตัวเต็มที่สำหรับวันพรุ่งนี้



Dec 22, 2014

Our winter trip start today. Bim bought a tour to LA and Grand Canyon so we skip Christmas in North Dakota and join her. Our flight was 8.20am which took about 2 and half hour to Minnesota and then connect to LAX about 3 and half hours more. Bim got to the airport after us about an hour. We rent the car and drove to the hotel. About this airport, we must go with car rental company shuttle to get the car because they are not in the same building. After check in the hotel, we went for supper and walk around a bit before headed back to the hotel, rest for tomorrow journey.

Sunday, December 21, 2014

เย้ เย้ ผ่านทุกวิชา Transcript Fall 2014

21 ธันวาคม 255... เยๆ วันที่เฝ้ารอสบายใจที่สุดเลย เพราะนักเรียนป้าโอ้ทไม่แน่ใจว่าคุณครูจะให้ผ่านวิชาภาษาอังกฤษจริงหรือเปล่าเนื่องจากเปอร์เซนต์เฉลียเกรดป้าโอ้ทไม่ผ่านเกณฑ์ แต่วันสุดท้ายคุณครูบอกว่าทุกคนที่อยู่ตอนนี้ผ่านเพราะทุกคนพยายามกันเต็มที่มากๆ ไม่ถอย ทั้งๆที่ป้าโอ้ทถอยไปตั้งแต่กลางเทอมแต่เพราะถอนวิชานี้แล้วไม่ได้เงินคืนป้าโอ้ทก้มหน้าเรียนต่อและทำเท่าที่ทำได้แต่ไม่ที่สุด ที่ว่าไม่ที่สุดเพราะอะไรที่ต้องท่องจำนักเรียนป้าโอ้ทไม่ท่อง อ่านคืนก่อนสอบเท่านั้น แต่กิจกรรม พรีเซนหน้าห้องทุกชิ้นนักเรียนป้าโอ้ททำเต็มที่ 

วิชาสาขาผ่านฉลุย เอ กะ บี ตามคาด คอมฯกราฟฟิคนักเรียนยังทำได้ไม่ดีพอที่จะได้เอ แต่สองวิชารู้อยู่แล้วว่าต้องได้เอ (โม้ซะเลย) พรุ่งนี้ออกเดินทางไปเที่ยวล่ะ พักเบรคฤดูหนาวก่อนกลับมาลุยนักเรียนเทอมต่อไป ลั่น ล้า

Dec 22, 2014... Finally ,transcript posted that I "Passed" all in this semester. Yeepee!.   This semester I had hard time with ESL100 (English for degree) I gave up in the middle of semester and thought about withdraw it. Well, I did not do because I could not get my money back so I decided to continue. I did very well with activities and presentation but I did not do good in the tests. I was not study hard with memories definition of words and write sentences in correct form. I am not good with memories. Thank you teacher to see how hard I have done in my work for whole semester. I do not care about grade just pass it.

We are leaving for our trip tomorrow. I will charge battery into my brain and gain full energy ready for next semester in January.

Yeeeheee! 😁




Friday, August 15, 2014

ผัดพริกแกงเขียวหวานซี่โครงหมู Spicy and sweet green curry chili stir fried ribs

15 สิงหาคม 2557...Aug 15, 2014
ส่วนผสมกะปริมาณเองค่ะ
I estimate all ingredients
ซี่โครงหมูหั่นชิ้นพอคำ chop ribs
พริกแกงเขียวหวาน (เพิ่มพริก กระเทียมตำ) Green curry paste (additional : Chili and garlic pounded)
เห็ดนางฟ้า angle mushroom
ซีอิ้วขาว soy sauce
น้ำผึ้ง honey
น้ำตาลปึก palm sugar
น้ำมันพืช cooking oil
น้ำ water
คะนอก้อน flavor cube
ต้นหอม green onion
ต้มกระดูกในน้ำคะนอก้อน สองชั่วโมง หรือจนเปื่อย
boil ribs with flavor cube about two hours or until soft
ผัดพริกแกง และ พริกตำกระเทียมในน้ำมัน
saute chili paste and chili with garlic pounded in cooking oil
ใส่กระดูกหมูที่ต้มเปื่อย (ไม่ใส่น้ำ หรือถ้าชอบใส่นิดหน่อย)
add ribs (add little soup if you like)
ใส่ต้นหอมหั่น  เห็ด
add slices green onion and angle mushroom
คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำผึ้ง น้ำตาลปึก ซีอิ้วขาว ชิมตามชอบ
stir and mix all ingredient and seasoning with soy sauce, honey and palm sugar then taste as you prefer
ป้าโอ้ทหวานนำ เผ็ดกลาง
my dish was sweet more , spicy a bit
กินกับข้าวร้อนๆ และ ไข่ต้ม
Eat with hot rice and boiled eggs

Sunday, August 10, 2014

หม่ำอาหารญี่ปุ่น Kyoto Japanese restaurant Aug 10 2014

 10 สิงหาคม 2557...วันนี้ไปหม่ำอาหารญี่ปุ่นกันค่ะ ร้านอยู่ใกล้นี่เอง
We ate Japanese food for lunch at Kyoto. It took about 15 minutes from home.
ป้าโอ้ท : มิสเตอร์ วันนี้ไออยากกินอาหารญี่ปุ่น
Oath :  Mister, I want to have Japanese food for lunch.
มิสเตอร์ : ที่ไหน?
Mister : Where?
 
ป้าโอ้ท : โตเกียว
Oath : Tokyo
มิสเตอร์: โตเกียวเหรอ?
Mister : Tokyo?
 
ป้าโอ้ท : ใช่
Oath :  Yes.
มิสเตอร์ : งั้นอีกหนึ่งสัปดาห์มาเจอกันที่บ้านนะ
Mister : Ok, see you in a week.
ป้าโอ้ท: ไม่ใช่ ไอหมายถึงร้านที่เราไปกินกับโต๋
Oath : No, I mean the one we went with Tow.
 
มิสเตอร์ : นั่นร้านเกียวโต
Mister : That is Kyoto.
ป้าโอ้ท : เหรอ ^_^
Oath : OK ^_^

Tuesday, August 5, 2014

ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาว Pork Noodle with Lime

8 สิงหาคม 2557...ป้าโอ้ทอยากกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูมะนาวตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้ว ดูยูตูปติดต่อกัน สามคืนแต่ทำไม่เป็น และแล้วในที่สุดวันนี้ป้าโอ้ทจัดการสมอยาก ทำออกมาเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง ใส่หมูแดง(ทำเอง) หั่นไก่เบอร์เกอร์(ซื้อสำเร็จมา) ใส่ผักบ๊อกช้อย (ภาษาไทยเรียกอะไรไม่รู้) กับเห็ดเข็มทอง บีบมะนาว น้ำตาลทรายนิด พริกป่นหน่อย เท่านี้ก็รักษาความอยากให้ป้าโอ้ทหายปลิดทิ้งได้

Aug 8, 2014...I wanted to eat Pork Noodle Tom Yum with Lime two weeks ago which I did not know how to cook. I watched you tube three days continue about this dish that made me sick of hungry for it. Finally, today I cooked noodle and it filled my hungry , even though it did not same as recipe'. 

I posted three pictures how this dish look like and how my dish look like. 

 
ภาพจากเวบ from web 
ภาพจากเวบ From web

ป้าโอ้ทยกเสริฟมิสเตอร์แบบแห้งเพราะไม่แน่ใจว่ามิสเตอร์จะกินแบบน้ำไหม
I served a dish for Mister's supper.

มิสเตอร์ : อะไรเนี่ย? 
Mister :What is this?

ป้าโอ้ท : ก๋วยเตี๋ยว 
Oath  :Noodle.

มิสเตอร์: ??
Mister : ??

ป้าโอ้ท : จะเอาซุปปะล่ะ
Oath : do you want soup?

มิสเตอร์: ซุปเหรอ?
Mister : soup?
ป้าโอ้ท ตักซุปถ้วยน้อยๆมาให้ มิสเตอร์ตักก๋วยเตี๋ยวในชามใหญ่ใส่ถ้วยซุปน้อย
I served him a small cup of soup and then he took noodle from a big bowl into the cup of soup.

ป้าโอ้ท: อ้าว! ทำไมล่ะ ไอทำก๋วยเตี๋ยวแห้ง ยูเคยกินที่ไทยจำไม่ได้เหรอ
Oath :  Oh! why do you do that? I cooked dry noodle which you have eaten in Thailand, do you remember?

มิสเตอร์ : ไอกินอยู่นี่ไง ซุปก็ต้องมีน้ำซิ
Mister : I am eating here. Soup must have liquid.

ป้าโอ้ทเข้าครัวจัดการชามของตัวเอง ยกมานั่งหม่ำๆ ที่โต๊ะด้วย มิสเตอร์หม่ำเสร็จยกชามวางที่อ่างล้าง
I return in the kitchen and made my dish then came back to join him at the dinning table. He finished before me and took his bowls to the kitchen sink.

ป้าโอ้ท : เป็นไงมั้ง
Oath : How was it?

มิสเตอร์ : อร่อยดี
Mister : Good.

Monday, July 28, 2014

กินก๋วยเตี๋ยวจ้า Noodles

28 กรกฎาคม 2557

คนล่ะจาน อิ่มจนพุงโต ป้าโอ้ทจัดไปสองจาน...
Easy dishes  for us today (July 28,2014)

ส่วนผสมตามใจป้าโอ้ท กะปริมาณตามชอบ
Ingredient by estimate 

1. ถั่วลันเตา (ป้าโอ้ทใช้ฝักโตน่าจะเรียกว่าถั่วแขก) Snow pea
2. พริกหยวกนิด Bell pepper 

*ป้าโอ้ทไปตลาดนึกว่ามีแครอทที่บ้านไม่ได้ซื้อมา ปรากฎว่าไม่มี ใส่พริกหยวกแทนให้มีสีสัน
I went to farmer market and did not get carrot because I thought there were some in my refrigerator but when I got home NONE! so I added red bell pepper instead for create color on the dishes

3. เห็ดนางฟ้า  angle mushroom
4. พริกขี้หนู กระเทียม ตำ  Pounded chili and garlic
5. เครื่องปรุงได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว เกลือ seasoning : sugar, soy sauce, oyster sauce and salt
6. น้ำนิดหน่อย a little of water
7. เนื้อสัตว์ตามชอบ(หมู) Meat as you like (pork)
8. น้ำมันนิดหน่อย cooking oil

ลงมือ  Cooked
1. ผัดพริกกระเทียมตำ  saute pounded chill and garlic
2. ใส่หมู ผัดจนสุก  added slices meat (pork)
3. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ผัดจนสุก เข้ากัน ชิมตามชอบ seasoning and taste, continue cooking until meat cooked well
4. ใส่ผักที่หั่นไว้ทั้งหมด ผัดจนเข้ากันไม่ต้องให้ผักเละ  added all vegetable
5. ตักราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยว take stir fried on top of the noodles

ปล. เส้นก๋วยเตี๋ยว ตั้งน้ำร้อนใส่เส้นลงไปลวกให้นิ่ม แล้วตักใส่จาน
* soft noodles by soak in hot water and take out in the dish


Thursday, July 24, 2014

ปีกไก่สะเต๊ะ Chicken wings satay

อร่อยด้วยผงปรุงโลโบ้สะเต๊ะเสียบไม้ แต่ป้าโอ้ทใช้ปีกไก่ ลองทำดู ทำตามวิธีข้างซอง ป้าโอ้ทไม่มีกะทิใส่นมสดแทน ส่วนอาจาดป้าโอ้ทไม่ทำน้ำหวานราดเพราะไม่อยากกินรสหวาน สรุปว่า อร่อยก๊าบบบบบบบบบ Easy cooking by LOBO seasoning. The ingredient mixed sliced pork or chicken but I mixed whole wings. The recipe' use coconut milk but I do not have today so I used milk instead. I also did not made sweet sauce but vegetable because I do not like to have sweet today. Conclusion of my adaptation menu was "GOOD". The package has both Thai and English.  

Tuesday, July 8, 2014

นั่งเรือ รถยกสูง Airboat and Buggy tour



8 กรกฎาคม 2557...วันนี้นั่งเรือพัดลมอีกแต่ไม่ติด ไม่ต้องลุยโคลน 😁 จากนั้นต่อด้วยนั่งรถยกสูงลุยน้ำ ล้อโตบะเริ่ม แต่น้ำแห้ง ไกด์บอกต้องฤดูหนาวน้ำจะขึ้นสูง



July 8, 2014

Our activities today in the afternoon was airboat and buggy tour.



We left the hotel to Miami airport at 7am. Our friend went back to Mississippi. It took about two hours from Naples to Miami airport. After that , we came back to the  hotel and rest for a bit before went out for our activities.

นั่งเรือดูปลาพะยูน Manatees seeing



7 กรกฎาคม 2557...ป้าโอ้ทไม่ได้หาข้อมูล เข้าใจว่า เป็นสิงห์โตทะเล นึกได้ตอนคุยกับมิสเตอร์ สิงห์โตทะเลภาษาอังกฤษคือ ซีไลออน Sea lion อ้าวแล้วเจ้านี้อะไรล่ะ ? ฮ่าฮ่า ที่แท้เพื่อนซื้ป้าโอ้ทนี่เอง ^_^



July 7, 2014...It was excited to see real Manatees. I did not realize how big they are until I saw them. It was a great experience to see them in nature. We must be patience, waited for them to come up above water.

Monday, July 7, 2014

Naples Pier Florida



7 กค 57...เย็นนี้มิสเตอร์เสนอสถานที่ กิจกรรมตอนเย็นสามอย่าง คือ ดูหนัง เดินริมหาดในสวนสาธารณะ หรือนวด เสียงส่วนใหญ่ไปดูหนัง แต่มีรอบดึกเกินไป จะไปเดินริมหาดไปไม่ทันเวลาปิด ไม่อยากไปนวด มิสเตอร์เช็คที่ใหม่ ไปดูพระอาทิตย์ตกที่สะพานปลากันดีกว่า



Jan 7, 2014...We had three choices for this evening ;

1. walk to the beach at Tiger tail beach state park

2. watch the movie

3. massage



We eliminated massage then movie was our first choice but the time for the movie was too late because we must get up early tomorrow and take our friend to the airport. The last choice was walk to the beach but it was only 30 minutes until the park closed and it took about 25 minutes to get there. Finally, we looked for other choice and decided to go see sun set at Naples Pier. We got there after sunset but we saw dolphins in the water. Everyone was happy back to the hotel.

Tuesday, June 17, 2014

ป้าโอ้ทผิดเต็มๆ My fault

17 มิถุนายน 2557 < June 17, 2014>

สวัสดีทุกคนค่ะ เช้านี้ป้าโอ้ทมีเรื่องขำ แต่ ไม่เคืองมาเล่า เรื่องเกิดจากเมื่อวาน ป้าโอ้ทไลน์ให้มิสเตอร์ว่างี้
Good morning, it was yesterday. Funny mistaken. I line him as bellow;
ป้าโอ้ท : plz get milk, cheese stick and bamboo stick
ตอนเย็นมิสเตอร์มาถึง ป้าโอ้ทรับถุงช๊อปปิ้งมาสามถุง คลำหา ไม้เสียบ ไม่มีแหะ
I took three shopping bags from him.
ป้าโอ้ท : where is my bamboo stick?
Mister : here (เอามือมาล้วงป๋องกลมในถุง)
ป้าโอ้ทปล่อยก๊ากกกกกกกก I was laughing : No, this is " Bamboo Shoot"
Mister : you told me to get it
Oath : Read your text again
Mister : show me what is it look like
Oath : I showed you yesterday , here it is (ป้าโอ้ทหยิบไม้เสียบที่เหลืออยู่นิด ยื่นไปที่หน้ามิสเตอร์)
Mister : OH!
ที่ซองเขียนว่า Bamboo Skewers แบบนี้ป้าโอ้ทผิดเอง รับผิดแต่โดยดี ก๊ากกกกกกกกกกกก
My mistook because I did not tell him " Bamboo Skewers" as the name on a packaging.
ปล. ป้าโอ้ทไม่ชอบกินหน่อไม้ แต่มีอยู่หนึ่งป๋อง ทำอะไรกินดีค่ะเพื่อนๆ แนะนำด้วย ♥:)
I do not like to eat bamboo shoot but since I have one can now so I just want Thai friends suggest me good menus.



Thursday, May 29, 2014

แอบดู Bird nest

ภาพที่เห็นเป็นภาพที่ดีที่สุดที่ป้าโอ้ทสามารถ เพราะป้าโอ้ทกลัวจะหัวทิ่มตกจากหน้าต่าง ^_^ เฝ้าดูตั้งแต่เห็นไข่ (4 พค 57) กระทั่งตัวน้อยออกจากไข่  (16 พค 57)และ แม่มาบังฝนให้ วันที่แม่บังฝน ป้าโอ้ททำให้แม่ตกใจบินหนี แต่แม่ยังวนเวียนอยู่รอบๆ ป้าโอ้ทกลัวลูกจะเปียกฝนตายต้องละความอยากได้ภาพเดินหนีจากหน้าต่างเพื่อให้แม่เข้ามาบังฝนลูกน้อย

I could not take better photos because I was afraid that I will fell off the window. I had been watched at the nest since the eggs ( May 4, 2014) and then two eggs hashed(May 16, 2014). One rainy day, I came back and checked the nest. The mother flew away immediately and there were two babies. I scared the mother. Well, I took some photos and decided to leave because I did not want the babies get wet until died without the mother covering them.




















Friday, April 18, 2014

โรงเรียนพาไปเที่ยวจ้า School trip to Philly Apr 17 2014



17 เมษายน 2557

ก่อนหยุดสปริงเบรค กลุ่มนักเรียนนานาชาติจัดกิจกรรมพาพวกเราเที่ยวกันหนึ่งวัน ป้าโอ้ทมีบรรยากาศมาฝากค่ะ

April 17, 2014

Before spring break, International Club of my school set a trip for us. It was fun.

Wednesday, April 16, 2014

ป้าโอ้ทโชคดี I am so lucky


16 เมษายน 2557...


วันนี้นักเรียนป้าโอ้ทกลับถึงบ้าน ราวๆ สี่โมงเย็น จอดรถด้านใน เพราะพรุ่งนี้ไม่ต้องใช้รถ เนื่องจากครูจะมารับ ไปร่วมทริปโรงเรียน มิสเตอร์จอดต่อท้ายได้เลย แต่...ครูส่งข้อความมาว่ามีสอน ไปไม่ได้แล้ว นักเรียนต้องไปเองล่ะ  นักเรียนจัดการถอยรถออกไปจอดหน้าบ้าน รอมิสเตอร์มาจอด แล้วขยับต่อท้ายเพราะพร่งนี้นักเรียนต้องไปแต่เช้า ต้องไปถึงโรงเรียน 7.15 นั่งรถบัสไปกับโรงเรียน เพราะนักเรียนจ่ายค่ารถ+ค่าตั๋วเบสบอลไปแล้ว ถ้าเอารถไปเองต้องเสียค่าจอดอีก
มิสเตอร์กลับมาปุ๊บ ออกไปจะขยับรถเข้าจอด อ้าว! สตาร์ทไม่ติด...ป้าโอ้ทโชคดีนะเนียไม่ดับกลางทาง มาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่เช่นนั้นไม่รู้จะโทรหาช่างที่ไหน นอกจากโทรหามิสเตอร์  มิสเตอร์เอาเครื่องชาร์จแบตเสียบ ลองสตาร์ท สาม สี่ครั้งไม่สำเร็จ เข้าบ้านกินมื้อเย็น


มิสเตอร์: พรุ่งนี้ยูเอามินิไป ไอจะหยุดงานเอารถไปซ่อม
ป้าโอ้ท :ไออยู่บ้านก็ได้ ยูไม่ต้องหยุดงานหรอก  (ป้าโอ้ทเกรงใจ มิสเตอร์หยุดงาน ดูแลรถให้ป้าโอ้ทในขณะที่ให้รถตัวเองป้าโอ้ทไปเที่ยว)


มิสเตอร์ : แล้วรถทำไง
ป้าโอ้ท : ไอหยุดสปริงเบรคพอดี ค่อยซ่อมสัปดาห์หน้าก็ได้ หรือ ยูไปส่งไอตอนเช้า แล้ว ไปรับตอนเย็น ตัดสินใจยังไงก็บอกมา หรือไอไม่ไปก็ได้ ไม่เป็นไร


มิสเตอร์ : เดี๋ยวไอกินเสร็จจะไปซื้อแบตมาเปลียนดู


สุดท้าย มิสเตอร์ซื้อแบตมาเปลียน (ถอดเอง ใส่เอง ป้าโอ้ทยืนให้กำลังใจ ยืนสั่นหนาวก็ทน นี่ล่ะ "มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ร่วมทุกข์" มิสเตอร์ไม่หนาว แต่ป้าโอ้ทหนาว  และแล้วรถก็สตาร์ทติด เยๆๆ


April 16, 2014..


I got home about 4pm. and park the car first. Normally , I park behind Mister's car but tomorrow I will not use the car. My teacher was coming to get me , the school trip to Philadelphia. However, the plan changed that I have to go by myself then I moved the car out. When Mister got home, parked his car and he was getting my car start but it did not start. I was lucky that it did not happen along my way somewhere.


He offered his car to me for tomorrow and he will take off for taking care of my car. Well, sounds good but I am not comfortable with that. I go for fun while he deals with a problem. I told him either take me to school and pick me up or I just stay home instead of he take off work. On the other hand, it is spring break time that we can fix the car next week.


Anyway, he went to store after supper and bought a new battery, changed it and ....Yeah! my car start.



Friday, March 21, 2014

เจ้านกขี้โมโหของป้าโอ้ท My" Angry Bird"

21 มีนาคม 2557... March 21, 2014




ป้าโอ้ท : มิสเตอร์ ไอมีเรื่องเฉิ่ม ของไอจะเล่า
Oath: Mister, I have a silly story about myself to tell you.
มิสเตอร์ : ว่ามา
Mister : OK




ป้าโอ้ท : ยูจำได้ป่าว เมื่อวานไอถามยูว่าเห็น แองกรี้เบิร์ดของไอไหม
Oath : Do you remember, I ask you yesterday if you see my angry bird?
มิสเตอร์ : อือ
Mister: Uh-huh




ป้าโอ้ท: เมื่อเช้าในห้องเรียน ไอคุยกับเพื่อนเรื่องเรียน แล้วมือก็จับเจ้าแองกรี้เบิร์ดออกมาจากกระเป๋าดินสอล่ะ ไอหาอยู่ทั้งสัปดาห์ ที่แท้อยู่ในกระเป๋าดินสอตลอดเวลาเลย
Oath: This morning, while I was talking with friends in the class, I grabbed it from my stationary bag. I was  surprised because it was there all the time but I kept looking for it around the house last week.
มิสเตอร์: เออ นะ (พยักหน้า ส่อให้เห็นว่า ยูเฉิ่มมาก)
Mister : < he smiles as funny>


ป้าโอ้ท : นี่ไง แองกรี้เบิร์ดที่ไอหา (ป้าโอ้ทชูยูเอสบีเจ้านกขี้โมโหให้มิสเตอร์ดู)
Oath : Here it is "the angry bird" I was looking for < I showed him>.
มิสเตอร์ : อ้าว! ตัวนี้เหรอ ไอนึกว่า ตัวที่เสียบอยู่บนโทรศัพท์ยู ไอไม่รู้ว่ายูมีอันนี้ด้วย
Mister: I thought you were looking for the one on your cell phone. I did not know you have this one.



หน้าตาเจ้านกขี้โมโหของป้าโอ้ท  This is what my angry bird look like.


Saturday, March 15, 2014

กิจกรรมที่โรงเรียน International Dance and Culture Dtcc March 13 2014







13 มีนาคม 2557...ป้าโอ้ททำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในงานกิจกรรมกลุ่มนักเรียนนานาชาติที่โรงเรียนจ้า

March 13,2014... I represent my country in the event at school.





< more photos are coming>

Tuesday, February 25, 2014

พูดภาษาอังกฤษที่โรงเรียนครั้งแรก My first speech in school in the USA



17 กพ 57... ป้าโอ้ทพูดภาษาอังกฤษที่โรงเรียน หาข้อมูลเอง ฝึกพูดที่บ้านได้น้อยกว่า 5 นาที ต้องพูด5-8 นาที วันจริงตื่นเต้นมาก พยายามควบคุม พูด 7.10 นาที ดีกว่าที่คิดไว้แหะ ป้าโอ้ทหน้าบาน
 หนุ่มที่เห็นหน้าป้าโอ้ทคือคุณครูค่ะ ^_^

(แนะนำหนังที่ห้องฉายของโรงเรียน เทศกาลหนังนานาชาติ ป้าโอ้ทแนะนำเรื่อง The Eye)

ภูมิใจนำเหนอ ก่อนเข้าห้องพูด ไปห้องน้ำ ทำใจ หน้ามืด เพราะกังวลว่าคนจะเยอะ เปิดประตูเข้ามามีอยู่สิบกว่าคน ค่อยยังชั่ว.

It was my first  speech" introduce movie" at school for the week of "International Film Festival". I did for extra credit ^_^. On that day I was really nervous and excited that made me almost pass out in the baht room because I did not know how many audience in the room. After clam myself down, I walked to the room and relief because there were not many people. Well, I did better than I thought, it was a good experience though. Therefore, it gains my confident to speak in public.


PS: the young man in front of me is my teacher.

Saturday, February 8, 2014

อิ่มแปร้ที่ร้านเกาหลีใกล้บ้าน Lunch@Korean BBQ


26 มกราคม 2557...น้องโต๋ชวนไปกินอาหารเกาหลี ป้าโอ้ทอยากกินเหมือนกัน มิสเตอร์ตื่นมาใกล้เที่ยงตกลงไป เยๆ ร้านนี้ไปหลายครั้งแล้ว นานๆ ไปกินกัน อาหารรสถูกปาก แต่ไม่เปิดเตาให้ย่างเองนะ ถ้าสั่งหมูย่างเกาหลีจะย่างเสร็จมาจากในครัว โต๊ะที่เป็นหลุม มีที่ดูดควัน ตอนนี้เปลียนใหม่เอาออกหมดแล้วล่ะ



Jan 26.2014

Our friend "Tow" was requesting for Korean BBQ which I fell like to eat  too. When Mister got up I told him if he agreed with us. Consequently, he had no problem to had lunch there.


We got home at the same time snowing.

Friday, February 7, 2014

คิดถึงไอไหม ? Do you miss me?

6 กุมภาพันธ์ 2557
Feb 6.2014




ในขณะที่ป้าโอ้ทกำลังง่วนทำอาหารมื้อเย็น หลังจากมิสเตอร์เปลี่ยนเสื้อผ้า เดินเข้ามาในครัว
While I was cooking, Mr. walked into the kitchen.




ป้าโอ้ท : มิสเตอร์คิดถึงไอไหม?
Oath : Mister, do you miss me?




มิสเตอร์ : ยูถามอะไรเนี่ย?
Mr. What are you talking about?




ป้าโอ้ท : ตั้งแต่ไอไปโรงเรียน ไอไม่ได้ดูทีวีกับยูเลย เพราะต้องทำการบ้าน
Oath:  Because since I go to school, I have not watched TV with you.




มิสเตอร์ : ยูกลับบ้านทุกวันใช่ป่าวล่ะ
Mr     : Are you come home everyday?




ป้าโอ้ท : ใช่ แล้ว ยูไม่คิดถึงไอเหรอ
Oath : Yes, but... do you miss me?




มิสเตอร์ : ก็ยูกลับบ้านทุกวันนี่นา ใช่ไหมล่ะ
Mr.  : You come home everyday, right?






ป้าโอ้ท : ก็ใช่ แต่ไอคิดถึงยูนะ ไม่ได้ดูทีวีด้วยเหมือนเมื่อก่อน
Oath : Yes, but I miss you because I have not watched TV with you as same as before.




มิสเตอร์ : (เดินส่ายหัว ออกจากครัว ไปนั่งดูทีวี)
Mr.  : ( shake his head and walk away. He was sitting on the couch watched TV)




ปล. เรื่องเล่า อ่านขำ ขำ สบายๆ เบาๆ ไร้สาระ
PS: Just our story for sharing my sense of humor which I do not know if you get it. However thank you for reading.

เพราะเหตุนี้... Because of...

วันที่ เช็คด้วย


ใส่ภาพประกอบ


มิสเตอร์ : ตรงนี้รับสัญญาณ (ชี้ไปที่มุมขวาล่างทีวี ที่มีกล่องวางของตั้งอยู่ด้านหน้า)


ป้าโอ้ท : ไอรู้ ก็บอกยูวันก่อนไง


มิสเตอร์ : กล่องต้องหาที่วางใหม่ ตั้งตรงนี้บังตัวรับสัญญาณ


ป้าโอ้ท : ก็ไอบอกยูให้ขยับทีวีไปด้านหน้าอีกนิด เอากล่องวางด้านหลัง ตรงนี้( ป้าโอ้ทหยิบกล่องวาง)


มิสเตอร์ : ได้ๆ (ขยับทีวี พร้อมพูดบวกกับชี้มือไปที่ชั้นวางรองเท้าข้างทีวี) จริงๆแล้ว กล่องต้องวางบนนี้นะ ถ้ายูไม่มีรองเท้า "ล้านคู่"


ป้าโอ้ท : ไม่ได้ซิ ไอต้องมีรองเท้า "ล้านคู่" ก็ไอชอบ งั้นเอากล่องไปวางมุมโน่นดีไหม (ชี้ไปมุมซ้ายหน้าทีวี)


มิสเตอร์ : (หยิบกล่องจากหลังทีวี ไปวางมุมซ้ายด้านหน้า แทนคำตอบ)


ป้าโอ้ท :  ยูต้องระวัง อันนี้ด้วยนะ (ชี้มือไปที่ตัวรับสัญญาณ สี่เหลี่ยอมน้อยๆ เท่ายางลบ) เพราะมังกี้มาเล่น


มิสเตอร์ : (หยิบเจ้าสิ่งนั่นจัดไป จัดมา ขยับอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบไปวางใต้กล่องวางของ)


ป้าโอ้ท : ดีมาก (ยกสองโป้ให้มิสเตอร์)

มิสเตอร์ : (ยิ้มแป้น ภูมิใจตัวเอง)

Sunday, February 2, 2014

สัปดาห์ที่สามของ"นักเรียนป้าโอ้ท" Third week in school

31 มกราคม 2557

วันนี้ป้าโอ้ทไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะคุณครูไปพักร้อนและ พรุ่งนี้วันเสาร์ด้วย ป้าโอ้ทมีการบ้านต้องทำ บัตรคำศัพท์ของวิชาการอ่าน และ การบ้านของวิชาแกรมม่าอีกนิดหน่อย ก่อนจะลงมือทำการบ้านป้าโอ้ทขอเล่าเรื่องราวของ"นักเรียนป้าโอ้ท" ต่อนะ

ภายในสามสัปดาห์ โรงเรียนป้าโอ้ทประกาศปิด สามวัน
ครั้งแรก ครึ่งวันบ่าย วันที่ป้าโอ้ทขับรถกลับบ้านด้วยความกังวลและกลัว
ครั้งที่สอง ประกาศปิดทั้งวัน
ครั้งที่สาม ประกาศปิดช่วงเช้า
ครั้งล่าสุด ประกาศปิดเต็มวัน เพราะอากาศหนาวมาก และ ประกอบกับพายุหิมะด้วย

บางวัน เมืองที่ป้าโอ้ทอยู่ไม่เลวร้ายเท่าไร แต่โรงเรียนประกาศปิดเพราะเมืองที่โรงเรียนตั้งอยู่เลวร้ายกว่า ป้าโอ้ทดูจากข่าวทีวี

เมื่อโรงเรียนปิด ทำให้ตารางเวลา และ แผนการเรียนการสอนที่ครูแต่ละท่านกำหนดไว้ (วันหยุดที่กระทบกับวิชาที่ต้องเรียนในวันนั้นๆ) ต้องคลาดเคลื่อน ต้องเปลี่ยน โดยที่ไม่ยืดวันเพิ่มตามกำหนดภาคเรียน

 ป้าโอ้ทไม่ได้เล่ารายละเอียดไว้ครั้งก่อนเนอะ เกี่ยวกับกำหนดการเรียนการสอน คือ ในครั้งแรกที่พบคุณครูแต่ละวิชา คุณครูนอกจากจะบอกถึงหนังสือ และ สิ่งที่ต้องใช้ในห้องเรียนแล้ว (หนังสือจะมีบอกในรายละเอียดวิชาเช็คได้จากเวบของโรงเรียน ซึ่งนักเรียนจะรู้ก่อนพบครูอยู่แล้ว) ยังมีเอกสารที่คุณครูเตรียมมาให้เป็นเหมือน"ไบเบิล" เลยก็ว่าได้ (คุณครูวิชาการอ่านเรียก) จะบอกให้เรารู้ว่า วันที่เท่าไร เรียนอะไร เมื่อไรมีสอบ สอบอะไร ฉะนั้นนักเรียนทุกคนจะอ้างไม่ได้ว่าไม่รู้ ไม่พร้อม ไม่ได้เตรียมตัวเพราะทุกคนมีเอกสารของแต่ละคนอยู่แล้ว ในชั้นเรียนก่อนจะถึงวันทดสอบ คุณครูทุกท่านจะบอกก่อนอีกครั้งด้วยนะ ไม่ใช่ให้พวกเรารู้เองจากเอกสารเท่านั้น

***อ่อ! ระบบการเรียนที่นี่(โรงเรียนที่ป้าโอ้ทเรียนนะ เพราะที่อื่นป้าโอ้ทไม่รู้) จะแบ่งเป็นแบบ พาร์ทไทม์(เรียนได้ไม่เต็มเวลา) และ ฟูลไทม์(เรียนเต็มเวลา) ค่าเทอมก็จะต่างกัน พาร์ทไทม์จะคิดรายหน่วยกิต ฟูลไทม์จะคิดยอดเหมา ซึ่งต้องลงเรียน ตั้งแต่ 12 หน่วยกิตขึ้นไปจะถูกกว่าแบบพาร์ทไทม์มาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาของนักเรียนแต่ละคน ป้าโอ้ทเรียนแบบเต็มเวลา เมื่อเพิ่มวิชาเรียน ป้าโอ้ทไม่ต้องจ่ายค่าหน่วยกิตเพิ่มแต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอื่น(อะไรนี่ป้าโอ้ทจำไม่ได้) กับ ค่าแลป(ถ้ามี)

เรียนเต็มเวลาใช้เวลา 16 สัปดาห์ กำลังสบายๆ แต่จะมีแบบเรียน 8 สัปดาห์ ด้วยนะ ซึ่งตอนคุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนวก่อนป้าโอ้ทจะไปไทย และอยากเรียนในเทอมนั้นเลย ครูแนะนำให้ป้าโอ้ทเรียนแบบ 8 สัปดาห์ซึ่งเนื้อหาที่เรียนเหมือนกับ 16 สัปดาห์แต่ต้องเรียนหนักกว่า เพราะเวลาหายไปครึ่งหนึ่งทีเดียว จังหวะวิชาที่ป้าโอ้ทต้องเรียนห้องเต็มแล้ว โชคดีไม่ต้องเรียนหนักได้เรียน 16 สัปดาห์เทอมนี้ล่ะ

อีกอย่างที่ป้าโอ้ทชอบมากๆ คือระบบแจ้งฉุกเฉิน คิดว่าเล่าไปนิดหน่อยก่อนหน้านี้แล้ว ระบบนี้ป้าโอ้ทได้เบอร์โทรฯ สำหรับเช็คว่าโรงเรียนเปิด-ปิด จากสมุดคู่มือนักเรียนใหม่ และ ในระบบแบลคบอร์ด (ออนไลน์ ในเวบโรงเรียนจะเล่าต่อไปว่าเป็นยังไง) มีส่วนที่ให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ของเราด้วย เมื่อมีเหตุฉุกเฉินทางโรงเรียนจะโทรมาแจ้งให้เราทราบ เช่น เมื่อโรงเรียนปิดที่ผ่านมา ป้าโอ้ทได้รับโทรแจ้งทุกครั้ง ป้าโอ้ทระบุไปให้แจ้งทั้งเบอร์บ้าน และ เบอร์มือถือเลย ครั้งหนึ่งโทรมาตอนดึก อีกครั้งโทรมาตั้งแต่ก่อน หกโมงเช้า ถ้าโทรมาสายป้าโอ้ทคงกำลังเดินทาง เพราะต้องออกจากบ้านระหว่าง 7.00น - 7.30 น ทางโรงเรียนคงมีทังนักเรียนและเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเดินทางร่วมชั่วโมงหลายคน ระบบจึงแจ้งเช้าตรู่

ครั้งแรกป้าโอ้ทอยากรู้ว่าระบบเป็นอย่างไร ก่อนจะมีการโทรแจ้ง ป้าโอ้ทโทรไปเบอร์ที่จดมาจากคู่มือ แต่ไม่เข้าใจสัญญาณปลายสาย เพราะได้ยินต่เสียง แต๊ก แต๊ก จนกระทั่งมีโทรแจ้งเข้ามา ป้าโอ้ทเลยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่รู้หากโรงเรียนปิด

ฤดูนี้ทรมานจริงๆ ยิ่งอากาศสัปดาห์นี้ด้วยนะ -12 ถึง -15 เซลเซียส เดินจากลานจอดรถไปอาคารเรียน เดินจากอาคารเรียนมาลานจอดรถ ไม่ได้ไกลมากนะ ไม่เกินห้านาที แต่หนาวทรมาน ทำให้ป้าโอ้ทนึกถึงบ้านเรามากๆ มิสเตอร์บอกว่า ฤดูร้อนที่นี่โรงเรียนจะปิด ป้าโอ้ทก็นึกไปซิ ว่าต้องเรียนเฉพาะฤดูอากาศเย็นตลอดเลย แต่นึกอีกทีก็ดีนะ เพราะฤดูร้อนสั้น จะได้ไปเที่ยว ฤดูหนาว อากาศแย่ ไปเที่ยวไม่สนุก
เอาล่ะ มาเล่าถึงการเรียนของป้าโอ้ทต่อ

เทอมนี้ป้าโอ้ทเรียนทั้งหมด สี่วิชา + กับ อีกหนึ่งวิชาเป็นวิชาสั้นๆ 16 ชั่วโมง หนึ่ง หน่วยกิต และบังคับสำหรับนักเรียนใหม่ คือวิชา การใช้ชิวิตในโรเงรึยน เป็นส่วนหนึงของวิชา"ประสบความสำเร็จ Success courses" มีอีกหลายวิชาที่น่าสนใจ ป้าโอ้ทจะลงเรียนเทอมหน้าบ้างเพราะวิชาที่ต้องเรียนเทอมหน้าน้อย และอีกเหตุผลป้าโอ้ทยังลงวิชาหลักเทอมหน้าไมได้ เนื่องจากยังต้องเรียน อีเอสแอลอีกหนึ่งเล่ม เล่มนี้นักเรียนต่างชาติต้องผ่านก่อนที่จะเริ่มเรียนวิชาหลัก แต่ป้าโอ้ทตั้งใจว่าจะคุยกับคุณครูที่ปรึกษาของสาขาที่ป้าโอ้ทเลือกเรียนก่อนว่าจะลงวิชาของหลักสูตรได้เลยไหม ถ้าได้ก็ลงควบไปสักหนึ่งวิชา

ก่อนที่จะลงวิชา " การใช้ชีวิตในโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จ " เป็นวิชาบังคับสำหรับนักเรียนใหม่ทุกคน ป้าโอ้ทเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนวก่อนนะ ว่าจำเป็นต้องลงเทอมแรกเลยไหม เพราะป้าโอ้ทเวลาแน่นแล้ว หรือ ลงเทอมไหนก็ได้ในปีแรก ได้คำตอบมาว่า ถ้าลงเทอมแรกเลยได้จะดี แต่ถ้าไม่ได้ก็เทอมต่อไป แล้วป้าโอ้ทถามต่อไปอีกว่า มีวิชาไหนในกลุ่ม Success courses ที่แนะนำว่าน่าจะเรียน และนักเรียนนิยมเรียนกัน คุณครูแนะนำให้อย่างชัดเจน แต่ละวิชาเพียงหนึ่งหน่วยกิต และ ใช้เวลาเรียนสั้น วิชาที่ป้าโอ้ทลงทะเบียนเพิ่มไปที่หลังนี้เรียนเพียง 16 ชั่วโมง แล้วเริ่มเรียนเดือนมีนาคมแน่ะ

วัน และ เวลาเรียน นักเรียนสามารถเช็คได้จากข้อมูลในเวบของโรงเรียน แต่ละวิชาจะมี หลายครั้ง วัน-เวลา ที่ต่างกัน เลือกได้ตามสะดวกของแต่ละคน แต่ก็ต้องให้เหมาะเหมงกับวิชาอื่นๆเน่อะ เช่นป้าโอ้ทเอง วิชาที่บังคับต้องเรียน เรียนต่อเนื่อง ห้าวัน ตั้งแต่ 8.30 - 12.20 ทุกวัน วิชาที่ลงเพิ่ม ป้าโอ้ทเลือกวันศุกร์ตั้งแต่ 13.00 เรียนชั่วโมงเดียว หรือ สองชั่วโมงจำไม่ได้ แต่เริ่มเดือนมีนาคม เพราะวัน และเวลา ก่อนหน้านี้ ป้าโอ้ทจัดเข้าในตารางไม่ได้เพราะ ซ้ำกับวิชาอื่นๆ

*วิชาแกรมม่า มีทดสอบความเข้าใจหนึ่งครั้ง ป้าโอ้ทได้ 9/14 และ อีกทดสอบคือ เพรพโพซิชั่น ป้าโอ้ทได้ 37/50 คิดเป็น 74% ซึ่งทั้งสองนี้ป้าโอ้ทเกือบผ่าน ง่ายๆคือป้าโอ้ท"ตก" แว๊กๆๆๆๆ เริ่มต้นก็ ปิ๋วซะแล้ว แต่ป้าโอ้ทไม่เสียใจ เพราะป้าโอ้ทรู้ว่าทำไม ตรงไหนที่ป้าโอ้ทยังไม่เข้าใจ ในส่วนของแกรมม่า ป้าโอ้ทสับสนระหว่าง adjective กับ adverb ในความหมายนะเข้าใจ แต่เมื่ออยู่ในรูปประโยคแล้ว ไม่แน่ใจ ส่วนเพรพโพซิชั่นป้าโอ้ทไม่ได้ท่องทั้งหมด ท่องเพียง 5-6 คำ ที่ไม่รู้ความหมาย นอกนั้นใช้วิชาความจำดั้งเดิมผลออกมาอย่างนี้ล่ะ
 


ก่อนสอบเก็บคะแนนจริงป้าโอ้ทอ่านทบทวน และ ทำความเข้าใจ จนพอจับจุดได้ ผลคือ ป้าโอ้ทได้ 96/100 เยๆๆ ไม่ได้สูงสุดในชั้นนะ แต่ว่า ได้ดีเกินคาด เพราะป้าโอ้ทคาดไว้ 75% แค่ผ่าน สอบเก็บคะแนนเนื้อหาทั้งหมด ของ Past Of Speech ในส่วนของเพรพโพซิชั่นป้าโอ้ททำผิด 3 ข้อเท่านั้น เทียบกับตอนทดสอบต่างกันลิบ

*วิชาการเขียน เริ่มต้นด้วยการเขียนตามหัวข้อที่มอบหมาย คุณครูต้องการดูพื้นฐานการเขียนของนักเรียนในชั้นว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร มีคะแนนประเมินให้ด้วยนะ ป้าโอ้ทพอได้อยู่ล่ะ ไม่ถึงกับดีมาก แต่ไม่แย่มาก
หาจุดที่ผิดและแก้ไข 
เขียนเรื่องตามโจทย์"ถ้าคุณเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ คุณจะสร้างแนวอะไร ทำไมคนดูหนังถึงมาดูหนังของคุณ"
ผลประเมินจากเรื่องที่เขียน ข้างบน
*วิชาการอ่าน เริ่มทำบัตรคำศัพท์แล้ว คำศัพท์จากเรื่องที่อ่าน ป้าโอ้ทยังมีปัญหา อ่านแล้วจับใจความไม่ได้ว่าเรื่องพูดถึงอะไร จำเนื้อเรื่องไม่ได้ ครูถามในห้องเพื่อนๆ ตอบกัน ป้าโอ้ทนั่งเงียบ ตั้งใจฟังอย่างเดียวเพราะจำไม่ได้ ท้ายชั่วโมงบอกให้ครูรู้ด้วย ว่าป้าโอ้ทไม่สามารถเข้าใจเรื่องได้ในการอ่านครั้งเดียว ต้องอ่าน 4-5 รอบ คุณครูใจดีมาก ตั้งใจสอนให้นักเรียนอ่านได้ เข้าใจเรื่อง วิเคราะห์เรื่องเป็น คุณครูไม่ว่าอะไรป้าโอ้ท แต่บอกให้คิดว่าทำได้ ป้าโอ้ทไม่เคยคิดว่าป้าโอ้ททำไม่ได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลานานกว่าบางคนนิดนึง

การอ่าน ไม่ใช่อ่านออกเสียงเท่านั้น แต่อ่านแล้วต้องวิเคราะห์ วิจารณ์ ให้เหตุผลของตัวเอง ในเรื่องที่อ่านด้วย ป้าโอ้ทชอบนะเพราะต้องใช้ความคิดเยอะ และต้องใช้คำสวยๆด้วย ซึ่งวิชาการอ่านนี้สอนให้รู้จัก รากของคำ Root คำที่มีความหมายเหมือน/คล้ายกัน Synonym คำที่มีความหมายตรงข้าม Antonym คำที่ออกเสียงเหมือนแต่สะกดต่าง ความหมายต่าง Homophone แล้วต้องรู้ด้วยว่า คำๆ นั้นมีรูปแบบไหน ใน Part of Speech ที่ต่างกัน ทั้งหมดนี้จะอยู่ในการ์ดคำศัพท์ที่นักเรียนทุกคนต้องทำล่ะ ไม่ทำก็ไม่ผ่านวิชานี้

*วิชาการฟัง และ การพูด หัดออกเสียงกันจนน้ำลายแตกฟอง...ฮ่าฮ่า ป้าโอ้ทเคยเรียนโฟเนติคมาแล้วตอน ปวช. 20 ปีมาแล้ว จำได้คร่าวๆ ทำให้ไม่ งง แต่การออกเสียงไม่ง่ายเลย หาจากดิกฯ ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้อง เพราะต้องอิงดิกฯแบบอเมริกันเท่านั้น

สรุปว่า สามสัปดาห์ป้าโอ้ทได้เรียนรู้แกรมม่ามากขึ้น และ เข้าใจมากขึ้น เพราะ วิชาการเขียน การอ่าน การพูดและการฟัง ล้วนแต่ต้องรู้โครงสร้างแกรมม่าทั้งนั้น เท่ากับเป็นการทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ละวัน ป้าโอ้ทหิ้วกระเป๋าใส่หนังสือหนัก ดิกเล่มเดียวก็หนักแล้ว ต้องเอาไปสี่วัน วันศุกร์เรียนการเขียนไม่ต้องใช้หนังสืออะไรเลย คุณครูแจกชีทให้ทุกวันที่เรียนและไปเขียนเรื่องในห้องคอมพิวเตอร์ ถ้ามีเวลา
Jan 31,2014

I have been to school three weeks and school closed because of the weather three days;

1st half day in the afternoon which I drove home with scared.

2nd whole day.

3rd half day in the morning , on this day I had problem with a direction which the usual way I use closed at the time I was there.

4th whole day

Every day at school while I was walking from the parking to the building and walked back from the building to my car which was cold made me think of my country. The weather in Thailand never been cold as same as here. Cold weather and snow storm effected our school schedule that our teachers re-arranged it but still fit in the end of semester.

My first started with Grammar Quiz was failed. Yes, you read exactly correct " Failed " but I did not upset because I knew it will be that way. However, my first Grammar test I did really well with 96%. Yeehee! it was more than 75% which I expected just pass.

I had a good start in Advance Writing which our teacher gave first assignment of written with the knowledge we had before study. My written lack of smoothing and connecting words but those will improving in this class after I learn.

I am going to know more vocabulary in Advance Reading with making vocabulary cards. Yes, it is a bit difficult for me and I need to pay attention when working with the cards also take times. Even though I do not catch what happen in the stories we were reading,I push myself to study harder.

I enjoyed practicing pronunciation in Listening and speaking class even if I could not remember the phonetic. I had learned phonetic 20 years ago and now I need to start my brain again.

All four ESL I studied in three weeks are helping with getting better in grammar. I noticed that my grammar is getting better a little.

Sunday, January 26, 2014

ป้าโอ้ทแย่แล้ว ไปทางไหนเนี่ย! Which way ?

23 มกราคม 2557
Jan 23,2014






วันนี้โรงเรียนป้าโอ้ทเปิด 10 โมง ป้าโอ้ทไม่ต้องไปเรียนวิชาตอนเช้า วิชาที่สองเริ่ม 10.30น. สบายไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องรีบร้อน อากาศวันนี้ยังหนาวมาก 5ฟาเรนไฮต์ แต่อุ่นกว่าเมื่อวาน หิมะเป็นนำแข็งแล้ว ข้างนอกเย็นยะเยือก ป้าโอ้ทแต่งตัวเต็มที่ แวะรับเพื่อนข้างบ้าน ไปส่งที่ทำงานทางผ่าน แต่ป้าโอ้ทแวะส่งของไปรษณีย์ก่อน ขายของในอีเบย์ได้อีกแล้ว เยๆ



Today school open at 10am, so I did not study the morning class. My other class was at 10.30am. The weather today was warmer than yesterday but it still cold very much for me. At the time I opened the door, I could feel the cold from icy.  I dropped packages at the post office and took Tow to his lab before headed to school.





วันนี้รถเยอะจัง คงเพราะสายแล้ว ป้าโอ้ทขับไปเรื่อยๆ ฟังวิทยุคลื่น FM 93.7 เพราะมีแจ้งข่าวอากาศด้วย และมีเรื่องราวของคนทั่วไปคุยให้ฟังด้วย ฝีกภาษาไปในตัว ดีกว่าเปิดเพลงไทยฟังเนอะ (ป้าโอ้ทเปิดเพลงไทยเวลาไม่อยากใช้สมาธิหลายทาง ไหนจะขับรถ ไหนต้องตั้งใจฟังวิทยุว่าคุยอะไร ก็อยากรู้นี่นา) มาเล่าต่อเรื่องเช้านี้ดีกว่า...



There were many cars on the road at that time. I was listening to the radio channel FM 93.7 while driving. They reported weather update and also talked with people on the phone about the situation they pick. It was fun and I could learn something with the stories they were talking.






ขับไปได้นิดเดียวเท่านั้น ประมาณ 10 นาที เส้นทางที่ป้าโอ้ทต้องไปปิด ไอหยา! งานเข้าป้าโอ้ทแล้ว ทำไงล่ะทีนี้ สี่แยกด้วย เอาก็เอา เลี้ยวขวาตามรถคันอื่นไปก่อน ไปไหนก็ไม่รู้ มองนาฬิกา อีก 40 นาทีถึงโรงเรียน จะรอดไหมเนี่ย จะได้ไปเรียนไหมเนี่ย คิดไป เริ่มวิตก หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ยังมีสติ มองรถคันหน้า มองทาง ตัดสินใจเลี้ยวตามคันหน้า เข้าหมู่บ้านเพราะคิดว่าเขาคงหาทางออกเหมือนกัน  ปรากฎว่าเลี้ยวเข้าบ้าน...ขำ แต่ขำไม่ออก เวลาก็น้อยลงทุกนาที เอาละ มีรถมาตามอีกคันก็แล้วกัน ขับไปได้ประมาณ 5 นาที (ไกลเหมือนกันนะ) เลี้ยวเข้าบ้านอีกแล้ว โอยๆ ไม่ไหว ป้าโอ้ทจะไปถึงโรงเรียนไหมเนี่ย เริ่มแน่นหน้าอก วิตกมาก  ตัดสินใจเลี้ยวออกทางเดิมดีกว่าแล้วตรงไปทางที่เลี้ยวมาตอนแรก



I went not far yet . OMG! the road I always use closed. Which way I should go?
I had no choice then I must turn to the right followed other cars. I decided to follow a car in front of me but that car went to a  house. Still, I followed one more car and that car went to the house too. I was worried , if I missed the class today.It was 10 minutes until the class started but it took about 40 minutes from where I was to get to school. However, I took decision to go back to the road I turned at first.




"โอยๆ เบรคไม่ได้ หวาดเสียว รถจะหมุนไหมเนี่ย" ทางสามแยก ป้าโอ้ทต้องหยุดตรงแยกด้วย ตามป้ายหยุด (กฎหมายจราจรที่นี่บังคับ) แต่เบรคไม่อยู่ ดีนะไม่ได้ขับเร็ว รถไม่มีผ่านมา ป้าโอ้ทเลี้ยวพวงมาลัย แล้วลุ้นตัวโก่งอยู่ในรถ กลัวรถจะแฉล่บเข้าบ้านหลังตรงหน้า รอดมาได้ มีรถจอดอยู่ด้านข้าง มีสวนมาสองคัน ป้าโอ้ทค่อยๆ ขับ รถความเร็วลง สาเหตุเพราะในหมู่บ้านนี้ถนนกลายเป็นน้ำแข็ง รู้สึกได้เวลาเบรคจะต้านสะท้อนเท้า ค่อยๆขับช้าๆ ใจไปถึงโรงเรียนแล้ว เพราะเวลาผ่านไป และ ผ่านไป



"Help" I thought when I could not stopped the car because I drove too fast too step on the break completely on the icy road. It was only 30mph but in that situation I could not control the car well. I worried if the car spin then I turn the stealing wheel so quick . Pew!  Lucky no car came and I did not hit anything. I reduce speed not over than 20mph until got out of that development. It took only 5 minutes to get out there but that time I felt like forever.






ในที่สุดก็ออกมาถึงปากทางหมู่บ้าน เวลาไม่นานที่วนอยู่ในหมู่บ้าน ป้าโอ้ทรู้สึกเหมือนนานมาก  เอาละเลี้ยวออกไปจากทางที่เลี้ยวมาแล้วตรงไปเรื่อยๆตามถนน โดยไม่เปิด จีพีเอส เพราะ จีพีเอสจะให้เลี้ยวกลับไปทางที่ปิด ต้องวนไป วนมา ไม่ถึงโรงเรียนแน่ๆ ป้าโอ้ทตัดสินใจ ตรงไปเรื่อยๆ ดูแผนที่ในรถประกอบ (จากจอติดมากับรถ ตัวเดียวกับจีพีเอสแต่ไม่เปิดให้จีพีเอสบอกทาง) ขับไปได้สัก 10 นาที มีหลายสี่แยก ป้าโอ้ทตัดสินใจตรงไปจนสุดทาง
เป็นการตัดสินใจที่ถูกเพราะเป็นถนนที่ป้าโอ้ทรู้จัก ดูจากหมายเลข เอาล่ะ ไปถึงโรงเรียนแน่วันนี้ ขับไปเรื่อยๆก่อน ป้าโอ้ทจำได้ว่าถนนหมายเลขนี้ตัดกับถนนเส้นที่ไปโรงเรียน แต่จากตรงที่ป้าโอ้ทเลี้ยวไกลแค่ไหนไม่รู้ เหลือบมองนาฬิกาอีก 10 นาทีจะถึงเวลาเรียน แต่ต้องใช้เวลาถึง 42 นาทีในการเดินทาง ต้องส่งข้อความบอกครูก่อนแล้ว ทำไงๆ จอดข้างทางก็ไมได้ (ตามกฎหมายจราจรที่นี่ห้ามจอดข้างทาง ยกเว้นฉุกเฉิน รถเสีย)



I turn to the road and went straight even though I had no idea where was this way took. Luckily, I knew that street. It went to the direction I wanted to go.  The class was starting shortly so I need to text the teacher let her know I won't absent but late.  I turn followed the sign on the route I wanted but I turn too early. Well, good spot which I could park and text the teacher.







ขับไปเรื่อยๆ เยๆ มาถูกทางแล้ว นั่นๆ ป้ายบอกทางไปถนนสายที่ไปโรงเรียน  ป้าโอ้ทใช้ถนนสาย 13 มีอีกเสันทางคือสาย 1 ซึงต้องเสียค่าผ่านทาง ป้ายตรงหน้าบอกทางไปทั้งสองสาย ป้าโอ้ทเลี้ยวซ้ายตามป้าย แต่ยังไม่ถึงทางเลีี้ยวนะป้าโอ้ท ใจร้อนน่ะ  ทางที่เลี้ยวไปเป็นบริษัท หรือ ร้านอะไรป้าไม่ได้มอง เห็นปั้มน้ำมันใกล้ๆ มีลานจอดรถ ป้าโอ้ทเลี้ยวเข้าไปจอด ส่งข้อความบอกครูก่อน






ป้าโอ้ท: ฉันจะไปถึงห้องเรียนสาย 20-30 นาทีนะคะ เพราะเส้นทางที่ใช้ประจำปิด แล้วไม่รู้จะไปทางไหน ตอนนี้หาทางได้แล้ว
Oath : I will late about 20 to 30 minutes because the road I always use closed and I have no idea which way to go. Now, I found the way.

ครู : ไม่เป็นไร เดินทางปลอดภัย
Teacher : No problem. Be safe.



จากนั้นป้าโอ้ทเลี้ยวเข้าเส้นทาง อ่อ ป้าโอ้ทเตรียมเงินค่าผ่านทางไว้ก่อน 75 เซ็น เผื่อเส้นทางนี้ต้องใช้สาย 1 
โชคดีจัง ถนนสายนี้ตัดกับเส้นทางสาย 13 พอดีเปะๆ เอาล่ะถึงโรงเรียนแน่นอนก่อนเลิก หนึ่งชั่วโมง ไม่เสียเวลาเปล่า ในตอนนั้น ป้าโอ้ทหายใจไม่ทั่วท้อง เริ่มหนักหัว เพราะวิตกมาก ว่าจะไปถึงสายมาก แล้วตามไม่ทัน ต้องหายใจเข้า-ออก ให้ตัวเองผ่อนคลาย ถนนสายนี้รถไม่เยอะขับได้สบายๆ



I continued to my "journey"  with worried still. I could not breath well but I tried to control myself with inhale and exhale.




ป้าโอ้ทถึงโรงเรียนเลยเวลาเรียนไป 30 นาที ซึ่งมั่นใจว่าครูยังไม่สอนมากเท่าไรนัก ดีใจเล็กๆ แต่แล้ว ก็ต้องกังวลอีกครั้ง คราวนี้คิดว่า" วันนี้เสียเวลาเปล่าแน่ๆ มาถึงโรงเรียนแล้วไม่ได้เข้าเรียน" ที่จอดรถเต็มหมดเลย ลานจอดหน้าอาคารที่เรียน ขับวนไป วนมา อยู่หลายรอบ สิบรอบได้มั้ง และนั่นไง รถออกพอดี ป้าโอ้ทจอดรอ แต่คนใจร้าย ขับมาอีกทางเสียบปั๊บ  ไม่ไหวแล้ว วนอยู่ตรงนี้ไม่ได้เรียนแน่ๆ ป้าโอ้ทตัดสินใจขับไปที่อาคารใกล้ๆกัน เดินไม่ไกลนะ แต่อากาศหนาวแบบนี้ไม่อยากเดิน ทำยังไงได้ล่ะไมมีทางเลือก ทนหนาวแป๊บเดียว ดีกว่าวนหาที่จอด แล้วไม่ได้จอด ไม่ได้เรียนด้วย

เมื่อตัดสินใจแล้วป้าโอ้ทเลี้ยวรถออกจากลานนั้น ไปที่ลานจอดอาคารใกล้ๆกัน โชคดีมีคนเดินมาที่รถ กำลังจะออก ป้าโอ้ทเสียบทันที 



I got to school about 30 minutes late that made me relief because the class has not gone far. Unfortunately, the parking closed to the building were full. I drove around many times. "Well, park a bit far and walk better than came  and miss the class", I told myself. As the thought, I drove to the next building with lucky because a car was leaving. Yeah!






กว่าจะได้เข้าห้องเรียน เลยเวลามาหนึ่งชั่วโมงเชียว แต่นักเรียนป้าโอ้ทเก่งซะอย่าง (คุยเลย) เข้าไปต่อติด ตอบคำถามได้อีกด้วยนะจะบอกให้ ^_^

Finally, I was in the class an hour late but I could catch up with what teacher taught very well. ^_^

-----------------------------------------------
"รถใครมีเบาะปรับความร้อนบ้าง?"
"Anyone 's car has hot seat?"


 รถป้าโอ้ทมี และ ป้าโอ้ทชอบมากๆในฤดูหนาว ขึ้นรถปุ๊บ เปิดความร้อนเบาะปั้บ สบายก้น ^_^ แต่ถ้าฤดูร้อน ไม่ไหว ใช้ที่บ้านเราก็คงไม่ไหวเน่อะ

My car has hot seats that is my favorite thing to use in winter. Get in the car then turn on the hot seat immediately, but if in summer I do not think a good idea to turn the hot seat on.  HaHa
ถนนในหมู่บ้านที่ป้าโอ้ทอยู่หลังเลิกเรียน  In the development I am living , photos after school


ถึงบ้านแล้ว I am home



ถนนหน้าบ้านกลางคืน  icy road in front of the house at night


เอาน้ำแดงมาราดดีไหม


Sunday, January 19, 2014

ขนมอบ(กล้วย) Banana cup baked my own recipe'

16 มกราคม 2557 => เอาล่ะ วันนี้ต้องจัดการเจ้ากล้วยเปลือกดำปี๋ในตู้เย็นเสียที แช่ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำอะไรดีล่ะ? เค๊กกล้วยหอม หรือ ขนมกล้วยดี น๊า? ว่าแล้วป้าโอ้ทจัดแจงหาในเนต เค๊กกล้วยหอมทำอย่างไรหว่า จำไม่ได้ ...เมื่อดูวิธีทำในเนตแล้ว ป้าโอ้ทลงมือทำ แต่ด้วยสูตร"ตามใจฉัน"








1. แป้งเอนกประสงค์ 2 ถ้วย  All purpose flour 2 cups
2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา  Baking powder 1/2 tsp
3. เบคกิ้งโซดา   1/2 ช้อนชา  Baking soda 1/2  tsp
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง       Egg 1
5. นมสด 1 ถ้วย      Milk  1 cup
6. กล้วยบด 8 ผล (ทั้งหมดที่มี)  Ripe banana 8
7. กลิ่นกล้วย 1/2 ช้อนชา    Banana extract 1/2 tsp
8. เม็ดพีคาน สองกำมือ หรือ 1 ถ้วย     pecan 1 cup
*ไม่ใส่น้ำตาลเพราะไม่ชอบหวาน   without sugar








วิธีทำ ; Prepared








เปิดเตาอบ 400 ฟาเรนไฮต์ เตรียมถาดคัพเค๊ก ใส่ถ้วยกระดาษขนาดตามต้องการไว้
Heat the oven at 400f and prepared cup cake liner in the muffin pan








1. ร่อนแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา พักไว้ shift flour ,baking powder and baking soda set a side
2. บดกล้วย ใส่กลิ่น mix banana with banana extract
3. ใส่ไข่ในแป้ง แล้วใช้พาย คลุกให้เข้ากัน  added egg into a flour bowl and mix together
4. ใส่กล้วยบด แล้วคลุกให้เข้ากัน  added banana mixed and mix together
5. เติมนม แล้วคลุกให้เข้ากัน added milk,mix
6. ใส่ถั่วพีคาน คลุกให้เข้ากัน แล้วตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ added pecan, mix and put the container then bake for 20 minutes. Check with tooth pick or a fork if nothing stick on. If still wet inside continue baking for 5 minutes.











Saturday, January 18, 2014

สัปดาห์แรก ของนักเรียนป้าโอ้ท First week Spring 2014 Jan 13-17

คืนวันก่อนเปิดเรียน ป้าโอ้ทนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นทุกหนึ่งชั่วโมง ตื่นเต้นน่ะซิ จะได้ไปโรงเรียนต่างประเทศครั้งแรก จะเจออะไรบ้าง? จะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันไหม? จะพูดรู้เรื่องไหม? จะฟังครูเข้าใจไหม? บลา บลา นี่ล่ะทำให้นอนไม่ค่อยหลับ



วันจันทร์ที่ 13 มค 57 ...ตื้ดดดดดดดดดดดดด นาฬิกาปลุกดัง เวลา 5:48น. อ้าว! ตั้งไว้ หกโมง ปลุกเร็วจัง แต่ไหนๆ ก็นอนไม่หลับ ลุกเร็วมีเวลาหุงข้าว เตรียมเสบียง อาบน้ำ แต่งตัว ไอหยา! ป้าโอ้ทติดกระดุมกางเกงไม่ถึง ห่างเท่าฝ่ามือเลย เอาอีกตัวมาซิ เหมือนกันเลย จะใส่ยีนส์ไปเป็นวัยรุ่น อดกัน แต่งตัวเรียบร้อย ลงมาในครัวจัดเสบียงตัวเอง เตรียมเสบียงของมิสเตอร์ใส่ถุงพร้อมวางไว้ในตู้เย็น แล้วออกจากบ้าน แต่...น้ำแข็งเกาะกระจกรถ เอ้า! ขูดๆ กว่าจะได้สตาร์ทก็ปาเข้าไป 7:30น. สายแน่ๆ วันแรก หนาวก็หนาว ป้าโอ้ทใส่เสื้อแจ๊คเก็ตแล้วหนึ่งตัว หยิบเสื้อโค้ทอีกหนึ่งตัวติดรถไว้เผื่อ กันลืมหยิบผ้าพันคอ เส้นทางจากบ้านรถค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อพ้นมาได้สัก 10 นาทีเข้าถนนอีกสาย รถน้อย ถึงไม่มี ขับสบาย ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ต้องอยู่ในความเร็วกำหนดอีก เส้ันทางที่ใช้ง่ายมากเพราะขับตรงอย่างเดียว จีพีเอสให้เลี้ยวเข้าเส้นทางด่วน ป้าโอ้ทไม่ไปเพราะไม่อยากเสียเงิน มีทางเลี่ยง ใช้ทางเลี่ยงดีกว่า ระยะเวลาไม่ต่างกันเพราะถนนโล่ง ป้าโอ้ทถึงโรงเรียน เลี้ยวเข้าลานจอดหน้าตึกที่เรียนสบายๆ เพราะเรียนเช้า นักเรียนคงน้อย รถยังไม่เยอะ สรุปว่า มาก่อนเวลาตั้ง สิบนาที มีนักเรียนอยู่ในห้อง สอง สามคนเอง เรียนน้อยกว่าที่ป้าโอ้ทคิดไว้มาก เพราะป้าโอ้ทนึกไปถึงรามฯ ที่ต้องแย่งกัน ไปสาย ก็ออกมานอกห้องเลยที่เดียว เรียนวิชาพื้นฐานตึกทั้งตึก ทุกชั้นกันไปเลย แต่ที่นี่ผิดคาด เลิกเรียนวันนี้ต้องไปปฎิบัติหน้าที่แจ๋วต่อ กลับถึงบ้านทำอาหารให้มิสเตอร์ แล้วป้าโอ้ทก็ปวดหัวมาก พยายามข่มตานอนให้หลับอย่างทรมาน คงเพราะใส่เสื้อไม่อุ่นพอตอนไปเรียนแน่ๆ เพราะเอาเสื้อโค้ทไปด้วยแต่ไม่ใส่ อยู่ในรถ



วันอังคารที่ 14 มค 57...ฝนตกพรำๆ ออกจากบ้านราว 7:15น. แวะส่งของไปรษณีย์ก่อน ขายของได้ในอีเบย์ เยๆ ฝนตกพรำๆ ตลอดทางจนถึงโรงเรียนเลย วันนี้มีเรียนสองวิชา ดีที่เรียนห้องเดิมไม่ต้องเปลียน เลิกเรียนแวะวอลล์มาร์ทสักประเดี๋ยว อยู่ใกล้โรงเรียนนี่เอง ป้าโอ้ทหม่ำกลางวันในรถที่ลานจอดวอลล์มาร์ทนี่ล่ะ ส่งภาพอาหารไปในไลน์มิสเตอร์ ปรากฎว่ากลับถึงบ้าน มิสเตอร์ถาม" ที่โรงเรียนไม่มีโรงอาหารเหรอ ถึงกินในรถ" ^_^ มีแต่เรียนเสร็จแล้วไม่ได้ทำอะไรต่อ เลยกลับมาที่รถ กินเสร็จแล้วกลับบ้าน ยังไม่มีเพื่อนด้วยแหละ ยังไม่ไปสำรวจโรงอาหาร เดินผ่านแว่บๆเท่านั้น



วันพุธที่ 15 มค 57...เช้านี้ตื่นมางัวเงีย ง่วงจัง เพราะเมื่อคืนนอนซะเกือบเที่ยงคืน มัวแต่นั่ง งม ว่าเวบโรงเรียนใช้อย่างไรอยู่น่ะซิ โอโห หมอก หนาจัง มองถนนไม่เห็นเลย ครั้งแรกที่ป้าโอ้ทขับรถฝ่าหมอกหนา ระยะไกลด้วย ค่อยๆขับไปช้าๆ นึกว่าจะถึงโรงเรียนสาย แต่ไม่สาย ถึงเวลาเข้าเรียนพอดี มีเพื่อนนั่งอยู่หนึ่งคน เพื่อนบอกนึกว่าย้ายห้องเรียนกัน แต่ปรากฎว่า ครูมาสายกว่า (มีโน๊ตแจ้งไว้บนกระดาน)





วันพฤหัสบดีที่ 16 มค 57...วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ยังหนาวอยู่นะ ก่อนไปโรงเรียนแวะส่งของไปรษณีย์ ขายของได้อีกแล้ว เยๆ วันนี้ ลมพัดอ่อนๆ สายๆ หิมะตกซะงั้นแหละ ตกตอนกำลังเรียนกันอยู่ แป๊บเดียวหยุดแล้ว วันนี้กลับบ้านพักผ่อนได้เพราะไม่มีการบ้านต้องส่งพรุ่งนี้ ป้าโอ้ทนอนดูทีวีกับมิสเตอร์ได้สองเรื่อง ก่อนขึ้นนอน

วันศุกร์ที่ 17 มค 57...โหย๋ ทำไมวันนี้ถึงได้หนาวแบบนี้ล่ะ ดูเทอร์โมมิเตอร์ 24ฟาเรนไฮต์ ต้องใส่เต็มยศเลยวันนี้ หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ที่ครอบหู เปิดประตูออกไป ลมพัดอ่อนๆ ยังไม่พอ น้ำแข็งเกาะยอดหญ้า เกาะทุกสิ่ง ต้องขูดกระจกรถก่อน หนาวก็หนาว อี๋ยยยยย ป้าโอ้ทสตาร์ทเครื่อง หวังจะให้น้ำแข็งละลาย จะได้ขูดง่ายๆ ปรากฎว่า สตาร์ทเครื่องยนต์แต่ดันไม่เปิดฮีตเตอร์ เฮ้อ! ป้าเอ้ย ป้า





สัปดาห์แรกทั้งสัปดาห์คุณครูแนะนำเนื้อหาที่จะเรียนกัน หนังสือ และ สิ่งที่ต้องใช้ แนะนำตัวกันเล็กน้อย และ เล่นเกมส์ เทอมนี้ป้าโอ้ทเรียน สี่วิชา กับคุณครู สาม ท่าน

  *วิชาแกรมม่า กับ วิชาการฟังและการพูด คุณครูคนเดียว อายุย่าง 25 หน้าตาดี ทำให้ป้าโอ้ทกระชุ่มกระชวย ^_^ นักเรียนทั้งหมด 15 คน เรียน 4 วัน ต่อสัปดาห์ สัปดาห์นี้นักเรียนไปเรียน ไม่ถึง 10 คน
*วิชาการฟังและการพูด ทั้งหมดกี่คนไม่ได้ถาม แต่ไม่น่าเกิน 15 คน นักเรียนไปเรียนกันเกือบเต็มห้อง

* วิชาการอ่าน คุณครูผู้ใหญ่กว่าป้าโอ้ท ผู้หญิงใจดี อารมณ์ขัน ท่าทางจะสอนสนุก ป้าโอ้ทถามหลังเลิกเรียนก่อนกลับบ้าน คุณครูอธิบายให้จนเข้าใจ วิชาการอ่าน นักเรียนทั้งชั้น 12 คน วันแรกไปเรียนกัน 11 คน

*วิชาการเขียน คุณครูอาจจะอายุมากกว่านิดหน่อย ยังสาวและสวย ท่าทางสอนไม่น่าเบื่อ วิชานี้ป้าโอ้ทชอบที่ไม่มีหนังสือ ไม่ต้องถือหนัก และเวลาเขียนเข้าไปเขียนในห้องคอมพิวเตอร์ คุณครูให้เปิดเวบดิกชันนารี่ได้ นักเรียนทั้งหมด 8 คนเท่านั้น และเป็นวิชาที่เรียนวันเดียวต่อสัปดาห์ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกันเลย แต่ป้าโอ้ทรู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมากๆ คุณครูพูดรวดเดียว และป้าโอ้ทต้องตั้งใจฟังด้วย เพราะถ้าหลุดไปนิดเดียว ไม่รู้เรื่องแล้ว


  ห้องเรียนทุกห้อง มีเครื่องฉายต่อกับคอมพิวเตอร์ พร้อมลำโพง ไว้ให้คุณครู มีอินเตอร์เนต เปิดเวบสอนได้

อ่อ! ป้าโอ้ทลืมเล่าว่า วันแรกป้าโอ้ทถามครูที่สอนการฟัง ถ้าเข้าไปนั่งเรียนไม่เอาเกรดจะได้ไหม ครูให้ป้าโอ้ทไปถาม ผอ.ฝ่ายภาษาอังกฤษ หลังเลิกเรียนวันนั้นป้าโอ้ทไปพบ ผอ. และ ผอ.บอกให้เรียนเอาเกรดด้วย พร้อมกับเขียนใบเพิ่มวิชาให้ป้าโอ้ทเอาไปลงทะเบียน มีลายเซ็นต์ ผอ.ฝ่ายภาษาอังกฤษมาแบบนี้แล้ว ได้เพิ่มวิชาเรียบร้อย เพราะตอนลงทะเบียนครั้งแรก ลงไม่ได้วิชานี้ล่ะ (เล่าไว้แล้ววันลงทะเบียน)


หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว การบ้านป้าโอ้ทมีทุกวัน ป้าโอ้ทต้องเรียนเพิ่มเองด้วยการหาความหมายของศัพท์ และอ่านทบทวน เพราะในห้องมีน้องคนหนึง เก่งมาก ครูถามส่วนใหญ่ตอบได้ ทำให้ป้าโอ้ทต้องดันตัวเอง แต่ครูไม่ค่อยถามป้าโอ้ทมาก เพราะป้าโอ้ทจะถามครูซะมาก ^_^



หนึ่งสัปดาห์ป้าโอ้ทรู้สึกชอบ และดีใจที่ตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่ ปฎิบัติเยอะกว่านั่งจดๆ และ เรียน อ่านเองในหนังสือ มีเพื่อนบางคนที่เรียนมาแล้ว สอบไม่ผาน เรียนซ้ำ บอกว่าครูคนก่อนสอนไม่ดี ป้าโอ้ทขอให้เจอแต่ครูสอนดีๆ เพี้ยง

My first semester in Spring 2014 was started first day in Jan 13,2014.

The night before I was really worried that cause me did not sleep well. I woke up everyone hour for whole night until the clock alarm.

I prepared my lunch and also for Mister then ready to go to school. The road was not busy. I got school 10 minutes before class. I parked at the parking in front of the building which few car that time.

Whole semester I study ESL : Advance Grammar and communication, Advance Reading, Advance Writing and Advance Listening and speaking with three teachers.



The end of the first week, I felt happy that I made the right decision to study here. About study, I have no problem with understanding both teachers and friends but I need to learn harder by myself at home with vocabulary because other students seem to know more than me. It is easier for study when know the meaning of words.

Sunday, January 12, 2014

ไหม้ Burn

12 มกราคม 2557

วันนี้ดูหนังรอบ เที่ยงห้าสิบ เรื่อง โลน เซอไวเวอร์ Lone survivor แปลว่า รอดคนเดียว ป้าโอ้ทสั่งไก่ทอดไม่มีกระดูกกับ มันฝรั่งทอดนั่งกินในโรงหนัง อร่อยจังฮู้ 😁

กลับถึงบ้านขยันอีกแล้ว...จัดการหั่นกุนเชียง สองห่อ (สิบท่อน) ใส่เตาอบไว้ จะได้เก็บไว้กินหลังเลิกเรียนสัปดาห์หน้า ป้าโอ้ทเรียนครึ่งวันทุกวัน  เมื่อเอากุนเชียงใส่เตาอบ แล้วขึ้นไปจัดหนังสือบนบ้าน 


โอยโหย๋! ลืมกุนเชียง อดกัน เกรียม แข็งเป๊ก มิสเตอร์บอกว่า " อะไรเนี่ย ถ่านเหรอ" สรุปว่า ทิ้งเทถาด ต้องเพิ่งอาหารหลักง่ายๆ "ไข่ต้ม" ดีนะ มีปลากรอบพี่สาให้มาอีกหนึ่งถุง




Jan 12 2014

Our movie this afternoon was " Lone survivor" was good.
At home, I broil sweet Thai sausages  and went up stairs organize book shelves.

OMG! I forgot my sausages. Mister said" What is this? Charcoal?"
I end up with boiled eggs for my lunch at school next week and crunchy tiny fish from a friend.

Saturday, January 11, 2014

ป้าโอ้ทพร้อมไปโรงเรียนแล้วจ้า I am ready for shool

และแล้ววันที่ป้าโอ้ทรอก็มาถึง วันจันทร์ที่ 13 มค 57 นี้ โรงเรียนเปิดแล้ว เป็นวันแรก และ เทอมแรกของป้าโอ้ท มีกังวลอยู่สอง สามเรื่องแต่ป้าโอ้ทไม่ถอย หนังสือพร้อม สมุดพร้อม นักเรียนพร้อมมาก

เทอมแรก ป้าโอ้ทยังไม่ได้เรียนวิชาหลัก เพราะต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ผ่านก่อนอีกสามเล่ม เพราะคะแนนสอบขาดไปนิด (เล่าไว้เมื่อบล๊อกก่อนหน้า พักใหญ่ๆแล้ว)

หนังสือเรียนจัดว่าแพงนะ เล่มหนึ่ง ห้าสิบกว่าดอลล่าร์ แต่ป้าโอ้ทประหยัดไปได้เยอะ ซื้อที่เวบ www.half.com หนังสือสี่เล่มจ่ายไป รวมค่าส่งด้วย 108 ดอลล่าร์ ยังถูกกว่าซื้อกับร้านหนังสือโรงเรียน เพราะราคาทั้งหมด สองร้อยกว่าๆแน่ะ ต้องขับรถไปซื้อด้วยตัวเองด้วยเพราะไม่มีส่งทางไปรษณีย์   มิสเตอร์ซื้อสมุดให้สามเล่ม
วิชาที่ป้าโอ้ทต้องเรียนเทอมนี้ได้แก่ แอดวานซ์แกรมม่า  แอดวานซ์การเขียน และ แอดวานซ์การอ่าน

ชีวิตนักเรียนป้าโอ้ทจะเป็นอย่างไร ป้าโอ้ทจะเล่าต่อไปนะคะ

เรื่องที่ป้าโอ้ทกังวล แต่ป้าโอ้ทไม่ถอย เดินหน้าเต็มตัว เพราะคนอื่นๆทำได้ ป้าโอ้ทก็ทำได้
1. ต้องเรียนกับเด็กๆ ที่เพิ่งจบมัธยมปลาย (ไฮสคูล) จะคุยกับเด็กๆ ไม่รู้เรื่อง
2. ป้าโอ้ทไม่ชอบอ่านหนังสือ เลยรู้เรื่องรอบตัวน้อย จริงๆต้องบอกว่าไม่รู้อะไรเลย จะเข้ากลุ่มกะเด็กๆ ได้ไหมน๊า คุยอะไรก็ไม่รู้เรื่อง


I am going to be a college student again after graduated from the University in Thailand 17 years ago. This will be my new experience.  I am ready.

I ordered books from www.half.com that much cheaper . I got some new books and some accepted. Mister bought me three note books.  This Monday (Jan 13 2014) is my first day to school in this country and first semester.

I worried in many things but I am not afraid to face with those.
"Others could do so do I"
  

Friday, January 10, 2014

โอ้ยยยยยยยยยยยย! Ouch!

10 มกราคม 2557  

วันนี้ป้าโอ้ทเริ่มต้นวัน (หลังมิสเตอร์ออกไปทำงานแล้ว) ด้วยการดูดฝุ่นห้องนอน ห้องรกๆ ข้างบนอีกสองห้อง แล้วยืนมองชั้นเสื้อที่หน้าต่าง สลับกับมองลำโพงสองตัวที่วางอยู่ข้างชั้นเสื้อ มองตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ที่อยากจะจัดให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ (ตู้เสื้อผ้าป้าโอ้ทไม่รกนะ แต่เสื้อผ้าแน่นจนทะลักเท่านั้นเอง) แต่สุดวิสัยเพราะตู้เล็ก

ยืนจ้องอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจ ขยับ สลับที่เอาชั้นเสื้อจากริมหน้าต่างไว้แทนที่ลำโพงหลังประตู ตู้เสื้อผ้า (เปิดประตูออกมาจะอยู่หลังประตูพอดีนั่นเอง ลากกล่องใส่เสื้อที่วางขวางอยู่ออก ลากเครื่องออกกำลังกายออก (ตัวนี้ลากได้คนเดียว) แล้วจัดการขยับ สลับที่ จนกระทั่งลำโพงเอาวางที่หน้าต่าง...โอ้ย! นิ้วก้อยน้อยป้าโอ้ทเข้าไปอยู่ระหว่างขอบหน้าต่าง กับ ลำโพง เจ็บจัง! แต่ป้าโอ้ทยังคงขยับลำโพงต่อจนเข้าที่ ทั้งสองตัว แล้วก้มมองนิ้วก้อยน้อยของตัวเอง ไอหยา! เลือดอาบเลยนึกว่าแค่ช้ำๆ เนื้อฉีกเลยจ้า แต่ไม่ถึงกับต้องเย็บนะ ป้าโอ้ทจัดการเอาพลาสเตอร์ปิดสองชั้น แล้วกลับไปจัดข้าวของต่อจนเสร็จ
หมุนไปหมุนมา หยุดยืนอยู่หน้าโดมต่างหู แล้วตัดสินใจจัดการซะ... เพื่อนป้าโอ้ท"ไจลี่" ให้สามีเขาซื้อที่ใส่เครื่องประดับเป็นแบบแขวนมาฝากจากจีน ตอนแรกไม่ชอบ และไม่ชอบสีดำด้วย แต่พอจัดเสร็จ ป้าโอ้ทชอบนะ กันฝุ่นด้วย แล้วพื้นสีดำทำให้เห็นต่างหู และ สร้อยชัดเจน ป้าโอ้ทมีภาพมาให้ดูตั้งแต่มาอยู่ที่อเมริกาว่าเก็บต่างหูอย่างไร จนวันนี้
ป้าโอ้ทแขวนต่างหูแบบนี้ตอนอยู่ไทย my earrings in Thailand

Jan 10 2014....

Today after Mister went to work, I started my day with vacuum the floor in the living room , bed room and messy rooms upstairs. I also moved and re-organized my closet and shelf.

 I moved two big speaker phone from the corner replace the shelf by the window and ...Ouch! my pinky finger was in the middle of the window curve and the speaker.

 I did not look at my finger right away but continue to placed both speaker by the window.

OMG! blood cover my pinky finger. I did not think it was that bad. Well, I put two bandages on it and continue with my organizing.
I also changed my earrings storage. I got a new one (the pic before last) from Jialin. It is black that I did not like in the beginning but it makes my earrings look so pretty. I love it now.

Monday, January 6, 2014

พูดได้ไหม? Can you speak?



ป้าโอ้ทอยากเล่าเรื่องหลังภาพ ภาพนี้
เมื่อวันเช้าวันที่ 23 พย 56 ที่ดอยผ้าห่มปก เชียงใหม่ หลังจากแช่น้ำแร่ร้อนกันแล้ว ป้าโอ้ท มิสเตอร์ น้องชาย หลานสาว พากันเติมพุงที่ร้านอาหารในอุทยานฯ ระหว่างนั้นมีหญิงชราชาวเขา แต่งตัวชุดชาวเขา พูดไทยไม่ชัด มาขายของ  หญิงชราคนนี้เดินสาวยกับเราตอนเดินจากที่พัก ไปจุดแช่น้ำแร่  ป้าโอ้ทเดาว่าคงเฝ้ามองกระทั่งเราออกมา แล้วเดินมาหา เพราะวันนั้นในอุทยานมีมิสเตอร์เป็นชาวต่างชาติคนเดียว

ป้าโอ้ทอุดหนุนเป็นของฝากหลานสาวของมิสเตอร์ที่อเมริกา เด็กน้อยในภาพนี้เดินมายืนมองหน้าป้าโอ้ทแบบดุๆ ไม่พูดไม่จา ไม่ยิ้มด้วย มิสเตอร์ถามป้าโอ้ทว่า ชีต้องการอะไร ป้าโอ้ทตอบไป ยูเฉยๆไม่ต้องสนใจเดี๋ยวเด็กก็ไป แต่ไม่เป็นอย่างที่ป้าโอ้ทคิด เด็กหญิงจ้องป้าโอ้ทตาเขม่งประหนึ่งจะเอาเรื่อง ป้าโอ้ทอยากถ่ายภาพเด็ก แต่คิดอีกทีช่วยเด็กสักนิดดีกว่า สบายใจกว่าถ่ายรูปเด็กเฉยๆ

ป้าโอ้ท: พูดได้ไหม
เด็กตอบแบบห้วน:ได้

ป้าโอ้ท:ขายอะไร
เด็ก:ข้าวหลาม

ป้าโอ้ท:อันเท่าไร
เด็ก:หนึ่งบาท

ป้าโอ้ท:ถ่ายรูปด้วยได้ป่าว ให้ห้าบาท ไม่เอาข้าวหลาม
เด็ก:ได้

แล้วป้าโอ้ทก็ให้น้องชายถ่ายภาพนี้ให้ ตลอดระยะเวลาที่สนทนากัน เด็กยังคงหน้าบึ้ง ป้าโอ้ทสังเกตว่า ที่สนามด้านนอกมีเด็กอีกสองคนนั่งอยู่  พ่อป้าโอ้ทบอกว่าเด็กพวกนี้น่าสงสาร อยากเล่นสนุกตามประสาเด็กๆ แต่ถูกผู้ใหญ่บังคับให้มาเดินขายของ

ป้าโอ้ทภาวนาให้เด็กๆ เหล่านี้มีอนาคตและชีวิตที่ดีกว่านี้เมื่อเขาโตขึ้น

มัดกระบอกข้าวหลามไม่เบานะคะ เด็กต้องเอาเชือกมัดแล้วคล้องคอ ตัวเท่านี้ ป้าโอ้ทถือมือเดียวยังไม่หนักเลย


I have a story behind this picture to share;

It was in the morning at Doi PhaHomPok National Park Cheingmai ,Thailand in the  in Nov 23 2013. After we had done from sitting in hot spring, we had breakfast. There was a hill lady ( I do not know what to call people live on the hill and do not speak Thai as well) came to us. She was selling handmade stuff . I bought some for gifts. This girl (in the photo) walked there and stood, looked at me without say word. Mister asked if she wanted anything? I told him to ignore and she will walk away but  it did not like I thought. She looked at me un-friendly. I wanted to take a photo of her and walked away but I changed my mind.

Me : Can you speak?
Girl : Yes (un-friendly voice)

Me: What are you selling?
Girl: Sticky rice in bamboo?

Me: Let's me look.

She had hard time to take a bunch of bamboo out  of her neck that I helped her.

Me: how much?
Girl : one baht each

Me: can I take a photo with you then I will give five baht and I do not want sticky rice in bamboo.
Girl : OK

this in only one photo I let my brother took . I noticed that there were couple children in the yard not far from us. They were poor kids. My dad said" they are not happy because they want to play as regular kids but adult  force them to work"


I wish they have better life when they grow up.


เมื่อเราไม่ท้อ ไม่ถอย ตั้งใจ และลงมือ อะไรก็สำเร็จได้สักวัน
แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ ขอให้มีความสุข และ มีความรักรอบๆ ตัวทุกคนค่ะ
If we never give up and begin doing, we will succeed. I wish everyone happiness and love, stay around.

เรื่องราว ข้อมูล บทความ ที่เขียนทั้งหมด ที่พื้นที่แห่งนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ตั้งใจเขียนเป็นบันทึกเก็บไว้อ่านย้อนหลังเพราะไม่ได้เขียนใส่สมุดตั้งแต่มาอเมริกาและเพื่อง่ายต่อทางบ้านที่ประเทศไทยได้เห็นชิวิตความเป็นอยู่ ทั้งเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส มิได้มีเจตนากระทบกระทั่งบุคคลใดขอขอบคุณเจ้าของบทความ งานเขียน และรวมถึงวิดีโอ ที่มีประโยชน์ได้นำมาอ้างอิงเผยแพร่ไว้ที่นี่ และยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาทั้งด้วยความตั้งใจและบ้งเอิญค่ะ

Stories and articles in this blog are my experiences .I would like to share in public. Welcome everyone!

Since I moved to the USA I have not written in a book, I use this space to keep the memories of everything I do and everyone I meet and this makes it simple to update my family in Thailand also.

Thank you to all the writers and people educated in the media who I copied to share this blog